ดาวโจนส์ชี้นำหุ้นไทย

บทสรุปในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาคือ การเคลื่อนตัวดัชนีดาวโจนส์คือตัวการหลักที่กำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทย ซึ่งสังเกตได้จากวันไหนที่ดาวโจนส์ทะยานขึ้นแรง ตลาดหุ้นไทยจะเด้งแรงตามไปด้วย


บทสรุปในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาคือ การเคลื่อนตัวดัชนีดาวโจนส์คือตัวการหลักที่กำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทย ซึ่งสังเกตได้จากวันไหนที่ดาวโจนส์ทะยานขึ้นแรง ตลาดหุ้นไทยจะเด้งแรงตามไปด้วย แต่ครั้งไหนที่ดาวโจนส์ทรุดตัวลงแรง ตลาดหุ้นไทยร่วงเป็นนกปีกหักในทันที แต่โชคดีที่หุ้นไทยมีจุดรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 1,260 จุด ดัชนีถึงเด้งกลับเป็นประจำไงล่ะตัวเอง!

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่า การยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,284.47 จุด บวกไป 9.86 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.65 หมื่นล้านบาท มีโอกาสทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,300 จุดอีกรอบ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คุณ ๆ ท่าน ๆ เคยเห็นกันมาแล้วในช่วงที่ผ่านมา และถ้าดูหุ้นแกนนำของตลาดหุ้นไทยที่ยังมีแรงซื้อเข้ามาเป็นระลอก ก็ทำให้เชื่อว่า ยังมีแก๊ปให้เล่นเก็งกำไรช่วงสั้นกันอีกนะตัวเอง

โดยเฉพาะรายของ TTB ซึ่งเป็นหุ้นขวัญใจนักเล่นทุกกลุ่ม เพราะมีราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ ก็เป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ที่อีฉันอยากเม้าท์ถึง หลังเห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 1.82 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 0.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 429 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้จุดเด้งกลับที่บริเวณ 1.80 บาทแบบนี้ อีฉันย่อมมองเป็นโอกาสของผู้กล้าที่เชื่อมั่นงบไตรมาส 3 จะออกมาดีเหมือนที่ประเมินไว้นะซี

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น DOHOME เป็นรายถัดมาในทันที เพราะการพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 4.04 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 7.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 287 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวข้องกับงบไตรมาส 3 อย่างมีนัยสำคัญ ผนวกกับงบครึ่งแรกปี 68 ก็ทำได้ค่อนข้างดี จึงทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจในแง่ของการฟื้นตัวที่เป็นรูปธรรม งานนี้จึงมีลุ้นเห็นหุ้นขึ้นไปทดสอบไฮเดิมที่ระดับ 4.50 บาทก็เท่านั้นเองจ้า!

ส่วนรายที่อ่อนตัวลงเยอะ และแกว่งตัวออกด้านข้างอย่าง AWC กลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจในแง่ของนักเล่นที่เชื่อว่า ภาพรวมของธุรกิจในโค้งสุดท้ายของปีจะทำผลงานดีขึ้น แถมเมื่อดูจากแพทเทิร์นการเคลื่อนตัวก่อนหน้านี้จะเห็นว่า หุ้นพยายามประคองตัวไม่ให้หลุดแนวรับ 2.10 บาท “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 2.12 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 0.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131 ล้านบาท น่าสนใจก็เท่านั้นเองจ้า

ตรงกันข้ามกับในรายของ THAI อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้ยังมีอาการเมาหมัดไม่หาย แถมความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับบอร์ดบริหารไม่รู้จะลงเอยอย่างไร? อีฉันเลยเข้าใจเหตุผลที่ราคาหุ้นยืนซึมกะทือ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 9.65 บาท ลบไป 0.45 บาท หรือลงไป 4.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 691 ล้านบาท เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนเต็ม ๆ นะจะบอกให้

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น KTC เพื่อใช้เป็นมาตรวัดการแก้ปัญหาความไม่มั่นใจของนักลงทุน ซึ่งเป็นผลมาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ถูกฟอร์ซเซลในช่วงที่ผ่านมา จนราคาหุ้นเซถลาไม่เป็นท่าหลายเดือน ก่อนจะโชว์ให้เห็นว่า เคลียร์จบทุกปัญหา และกำไรไตรมาส 3 ก็ยังดีอยู่ วานนี้ถึงเห็นหุ้นกลับมายืนเหนือ 30 บาทอีกครั้ง พร้อมยืนปิดที่ระดับ 30.25 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 610 ล้านบาทแบบนี้..น่าเล่นไหมล่ะคะ

ปิดท้ายกันที่หุ้นกระดาษลัง SCGP เพื่อย้ำให้เห็นการแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ในกรอบ 17-20 บาทเป็นเวลา 3 เดือน เหมือนเป็นการส่งซิกให้รู้ว่า หุ้นกำลังรอข่าวดีบางอย่างเพื่อเป็นแรงหนุนให้วิ่งทะลุกรอบเดิมแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 17.20 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 106 ล้านบาท เหมาะต่อการเล่นเก็งกำไรอย่างแน่นอน เพราะราคาที่เทรดตอนนี้มันเท่ากับบุ๊กแวลู ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำเกินไปจ้ะ

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button