ก.ล.ต. เตือนผู้ถือหุ้นกู้ “MJD” 2 รุ่น โหวตยืดไถ่ถอน 3 ปี-เพิ่มดอกเบี้ย 30 ต.ค.นี้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ MJD263A และ MJD265A ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 มีจำนวนผู้ถือหุ้นกู้เข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุมในบางวาระตามข้อกำหนดสิทธิ จึงได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่นดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น. ด้วยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-meeting) โดยมีเรื่องเพื่อพิจารณาอนุมัติ ดังนี้

1.) อนุมัติการดำเนินการต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.1) ขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 3 ปี โดยแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้จากเดิมของหุ้นกู้แต่ละรุ่น

1.2) การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ในช่วงระยะเวลาที่ได้ขยายอายุหุ้นกู้ออกไป โดยปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.30 ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยเดิมของหุ้นกู้แต่ละรุ่น

1.3) ปรับเงื่อนไขชำระคืนเงินต้น โดยทยอยชำระคืนเงินต้นเป็นจำนวน 3 งวด แบ่งเป็นงวด ดังนี้

งวดที่ 1 : ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของเงินต้น ณ วันออกหุ้นกู้

งวดที่ 2 : ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของเงินต้น ณ วันออกหุ้นกู้

งวดที่ 3 : ส่วนที่เหลือทั้งหมด

ทั้งนี้ การทยอยคืนเงินต้นดังกล่าวไม่ใช่การไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน

1.4) ขอผ่อนผันให้การที่ผู้ออกหุ้นกู้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อขอปรับเงื่อนไขการชำระหนี้หุ้นกู้ในครั้งนี้ และ/หรือเข้าเจรจากับสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้อื่น เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีมูลหนี้รวมกันเกินกว่า 400 ล้านบาท หรือเงินสกุลอื่นที่มีจำนวนเทียบเท่า ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ

2.) เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

2.1) ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเกี่ยวกับจำนวนเงินต้นขั้นต่ำของการชำระคืนในแต่ละครั้งเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ

2.2) ขอยกเลิกค่าธรรมเนียมในการใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ และผลกระทบที่ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับจากการมีมติอนุมัติ หรือไม่อนุมัติ ให้ชัดเจนในแต่ละทางเลือก พร้อมเหตุผลประกอบโดยมีความเห็นของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ประกอบด้วย ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นกู้ในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลต่าง ๆ จากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนประกอบการตัดสินใจออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ด้วย