จับตา! วาระ “โอทีทีแห่งชาติ” เข้าบอร์ด กสทช. อีกครั้ง หลังรอพิจารณานานกว่า 2 ปี

บอร์ดกสทช.เตรียมพิจารณาวาระ “National Streaming Platform” หลังสมาคมทีวีดิจิทัลเสนอรออนุมัติมากว่า 2 ปี เลือกแนวทางใช้แพลตฟอร์มเดิมพัฒนาต่อยอด คาดใช้งบสนับสนุน 300 ล้านบาทใน 3 ปี ก่อนดำเนินการเต็มรูปแบบหลังปี 2572  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารายงานอ้างอิงแหล่งข่าวในสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล(ประเทศไทย) ​เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) วันนี้(7​ พ.ย.68) ทราบว่าได้มีการบรรจุวาระพิจารณาเห็นชอบผลการศึกษาแนวทางที่เป็นไปได้ และเหมาะสมในการจัดให้มีช่องทางการเข้าถึงกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินบนแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือ (​National​ Streaming​ Platform หรือ โอทีทีแห่งชาติ) ​ที่ได้เคยเสนอเข้าวาระที่ประชุมบอร์ดกสทช.มาตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคม 2566 ​แต่ยังไม่มีการพิจารณา​โดยผลการศึกษาได้สรุปออกมาเป็น​ 3​ แนวทาง ​คือ

1.แนวทางการลงทุนสร้างแพลตฟอร์มใหม่

2.แนวทางการใช้แพลตฟอร์มเดิมและพัฒนาต่อยอด

3.แนวทางการกำหนดและปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อผลักดันแพลตฟอร์มสำหรับการชมทีวีดิจิทัล​ โดยจะมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในระยะเวลา 3 ปี

แหล่งข่าวกล่าวว่าทางคณะทำงานของสำนักงานกสทช. ได้เลือกแนวทางที่ 2 คือการใช้แพลตฟอร์ม เดิมและพัฒนาต่อยอด​ โดยคาดว่าจะให้เงินสนับสนุนในช่วง 3 ปี​ ประมาณเกือบ 300 ล้านบาท เพื่อประเมินผลตอบรับก่อนจะดำเนินการเต็มรูปแบบหลังปี 2572

แหล่งข่าว ยังกล่าวว่าทางสมาคมทีวีดิจิทัลอยากให้ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานบอร์ด กสทช. นำวาระนี้มาพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับแผนที่นำทางทีวีดิจิทัลหรือ Roadmap Digital TV ที่อยู่ระหว่างการประชาพิจารณ์จากกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง แพลตฟอร์มโอทีทีแห่งชาติเป็นข้อเรียกร้องของสมาคมทีวีดิจิทัลมาตั้งแต่กลางปี 2566 ที่กสทช.ยังไม่ได้มีคำตอบที่แน่ชัดในช่วงที่ผ่านมาทราบเพียงแค่สำนักงานกสทช.ได้เคยเสนอผลการศึกษาเพื่อเข้าวาระประชุมบอร์ดกสทช.มาร่วม 2 ปีแล้ว แต่กลับยังไม่มีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาแต่อย่างใด

“พวกเราอยากได้ความชัดเจนจากประธานกสทช. ว่าเมื่อไหร่จะหยิบขึ้นมาพิจารณา เพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าหรือยกเลิกหรือไม่” แหล่งข่าวในสมาคมทีวีดิจิทัลกล่าวว่าถ้าหากในวันศุกร์นี้ (7 พ.ย.) ยังไม่มีการพิจารณา ทางสมาคมฯคงต้องทำหนังสือทวงถามอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ในวาระวันศุกร์​ที่ 7 พ.ย.จะมีการเห็นชอบในหลักการต่อแนว​ทางการกำหนดค่าใช้จ่ายในส่วนของ Multi-CDN  Platform ที่เกี่ยวข้องด้วย โดยมีทางเลือก 3 แนวทางคือ

-แนวทางแรกกำหนดให้จ่ายค่าใช้จ่ายตามปริมาณข้อมูลที่เกิดขึ้น และใช้งานจริง โดยไม่เกินค่าใช้จ่ายที่กำหนดขึ้น

-แนวทางที่ 2​ กำหนดให้ผู้ให้บริการทีวีดิจิทัลร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ 50% โดยคำนวณจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงของแต่ละช่องรายการ​ แต่ไม่เกินวงเงินที่จะกำหนดขึ้น

-แนวทางที่ 3 กำหนดให้ช่องทีวีดิจิทัลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น​ แต่ไม่เกินวงเงินที่จะกำหนดขึ้น

นอกจากนี้ยังเสนอให้กำหนดนโยบายการพัฒนา​ National​ Streaming​ Platform ​ไว้​ เช่น​ การสร้างกลไกการสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง​ กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.), การกำหนดหลักเกณฑ์การให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ต, การกำหนดหลักเกณฑ์การบริหารจัดการและการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการับชม​ครอบคลุมทั้ง​ BVOD (Broadcast Video​ on​ Demand), VSP (Video Service​ Providers)

แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ความเป็นมาของโครงการ “National Streaming Platform” เกิดจากที่ทางสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) เห็นควรเพิ่มช่องทางการเข้าถึงรายการโทรทัศน์ของประชาชนให้สะดวกยิ่งขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับชม จึงมีมติให้จัดทำโครงการ“Thailand Digital TV Streaming Platform”  เมื่อครั้งประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 3 และครั้งที่  4 กลางปี 2566  และให้นำเสนอโครงการ “Thailand Digital TV Streaming Platform”  เสนอต่อคณะกรรมการกสทช. โดยสมาคมได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการกสทช. โดยผ่านการรับรองจากสถานีโทรทัศน์สมาชิกทุกสถานี เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งขณะนี้ทุกสถานีก็ยังรอการดำเนินการจากทางสำนักงานกสทช.

Back to top button