
JPARK วิ่งแรง 5% หลังปิดดีล 1,084 ช่องจอด “สนามบินนครศรีธรรมราช” ยาว 10 ปี
JPARK พุ่งเกือบ 5% รับข่าวดีคว้าสัมปทานบริหารจัดการลานจอดรถภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช รวม 1,084 ช่องจอด เป็นระยะเวลา 10 ปี หนุนช่องจอดในมือพุ่ง 45,000 ช่องจอด แย้มงบไตรมาส 4/68 เด่น ลุ้นปิดดีลเพิ่มกว่า 1,000 ช่องจอด ภายในสิ้นปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 พ.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK ณ เวลา 10:30 น. อยู่ที่ระดับ 3.16 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 4.64% สูงสุดที่ระดับ 3.18 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.04 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.70 ล้านบาท
นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า บริษัทได้รับการคัดเลือกในโครงการเช่าที่ดินราชพัสดุ เพื่อบริหารลานจอดรถภายนอกอาคารที่พักผู้โดยสาร ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช พื้นที่ดำเนินงานรวมกว่า 35,129.60 ตารางเมตร จำนวน 3 ลาน ประกอบด้วย ลานจอดรถ A พื้นที่ประมาณ 19,376 ตารางเมตร ลานจอดรถ B พื้นที่ประมาณ 7,716 ตารางเมตร และ ลานจอดรถ C พื้นที่ประมาณ 8,037.60 ตารางเมตร โดยได้รับสัมปทานเป็นระยะเวลา 10 ปี และบริษัทยังได้ชนะการประกวดเสนอราคาในบริหารจัดการลานจอดรถใต้ดินลานคนเมืองของกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) การได้รับสัมปทานครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัท ในฐานะผู้นำธุรกิจบริหารลานจอดรถ
ทั้งนี้การได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้รับสัมปทานบริหารจัดการลานจอดรถภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช 1,084 ช่องจอดนั้น ส่งผลให้ปัจจุบันมีช่องจอดรวมประมาณ 45,000 ช่องจอด จากสิ้นปี 2567 ที่มีช่องจอดรวม 42,000 ช่องจอด ตอกย้ำศักยภาพ และความเชื่อมั่นต่อมาตรฐานการดำเนินงานของ JPARK พร้อมมุ่งมั่นที่จะยกระดับการบริหารจัดการลานจอดรถให้เป็นระบบอัจฉริยะ และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก ปลอดภัย และประทับใจในทุกขั้นตอน
“บริษัทเป็นผู้ให้บริการ และบริหารการจัดการที่จอดรถแบบครบวงจรในประเทศไทย โดยมีพื้นที่ให้บริการหลักในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และสนามบินระดับภูมิภาค รวมถึงเมืองหลักในต่างจังหวัด นอกจากนี้ ธุรกิจของบริษัทครอบคลุมการบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ การพัฒนาเทคโนโลยีระบบจอดรถ และการให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง” นายสันติพล กล่าว
สำหรับท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญของภาคใต้ตอนบน ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการพื้นที่จอดรถให้มีระบบและมาตรฐานทันสมัย จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์ที่ดีและภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับสนามบิน รวมทั้งเป็นต้นแบบของโครงการ Smart Airport Parking ที่บริษัทตั้งใจขยายผลไปยังสนามบินภูมิภาคอื่น ๆ ในอนาคต
นายสันติพล กล่าวต่อว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2568 จะเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีช่องจอดใหม่เพิ่มขึ้น และช่องจอดเดิมมีอัตราการเข้าใช้บริการ (Occupancy Rate) ในระดับสูง พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการประมูลโครงการใหม่ ลักษณะคล้ายเคียงกับโครงการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ขนาดช่องจอดไม่ต่ำกว่า 1,000 ช่องจอด ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 จะชะลอตัวลงบ้าง คาดกำหนดประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่ออนุมัติผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 และประกาศงบในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 นี้


