UBE เปิดกำไร Q3 แตะ 11 ล้านบาท เดินแผนปรับพอร์ต รับมือแข่งขัน “ตลาดเอทานอล”

UBE รายงานกำไรไตรมาส 3/68 แตะ 11 ล้านบาท เดินแผนปรับพอร์ต กระจายความเสี่ยง รับมือการแข่งขันรุนแรงในตลาดเอทานอล รุกขยายธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและร้านอาหาร สร้างรากฐานเติบโต


นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในภาวะที่ธุรกิจเอทานอลมีการแข่งขันที่รุนแรง บริษัทฯ เดินหน้าปรับพอร์ตโฟลิโอตามแผนกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง (Diversification) ไปยังธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและฟลาวที่มีมูลค่าสูงและธุรกิจร้านอาหาร โดยมุ่งเพิ่มความสามารถทำกำไรที่สูงขึ้นและทำรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกันก็รักษาฐานรายได้ของธุรกิจเอทานอลให้มีเสถียรภาพที่ดี โดยบริษัทฯ ได้ขยายพอร์ตฯ ธุรกิจร้านอาหารในเครือ โอชิเน เอ็นเตอร์ไพรส์ (Oshinei Enterprise) ที่มีวิสัยทัศน์และการพัฒนาไม่หยุดนิ่งในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น และมีรากฐานมั่นคงของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นโอชิเน ที่มีกว่า 29 สาขาทั่วประเทศ และพร้อมต่อยอดความสำเร็จครั้งใหม่เปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ ‘เรนชิน’ (Renshin)

สำหรับแผนธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น “เรนชิน” (Renshin) บริษัทฯ วางกลยุทธ์ที่นำเสนออาหารญี่ปุ่นเมนูหลากหลายที่มีคุณภาพ ผ่านการรังสรรค์มาอย่างประณีตโดยทีมเชฟผู้มากด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ผสานกับวัตถุดิบชั้นเลิศและบรรยากาศร้านที่อบอุ่น ทันสมัย ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่แตกต่างจากร้านทั่วไป

โดยได้เปิดดำเนินการสาขาแรก ที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเดือนตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของแบรนด์ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่มาเยือน วางเป้าหมายสู่การเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียมที่อยู่ในใจลูกค้า ทั้งในด้านคุณภาพ บริการ และความประทับใจที่ได้รับในทุกครั้งที่มาเยือน พร้อมวางแผนขยายสาขาในต่างจังหวัด ตามกลยุทธ์ที่ตั้งเป้าไว้ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) ทำให้ผู้บริโภคยุคใหม่มีพฤติกรรมรับประทานอาหารระดับพรีเมียมเพิ่มขึ้น

สำหรับแผนธุรกิจไตรมาส 4 ปี 2568 ธุรกิจเอทานอลมุ่งเน้นบริหารการผลิตและการขายอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและฟลาว ให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง (High Value Products) โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังออร์แกนิก ฟลาวมันสำปะหลัง และแป้งมันสำปะหลังพันธุ์แว็กซี่ (Organic Starch, Flour, Waxy Starch)  ซึ่งเป็นสินค้าที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและมีจุดแข็งสูง สามารถตอบโจทย์ลูกค้าพรีเมียมทั้งในและต่างประเทศ และเป็นสินค้าที่ทดแทนได้ยาก พร้อมกับปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูง ลดการใช้แรงงานตรวจสอบ เพิ่มความต่อเนื่องและความเสถียรของคุณภาพสินค้า พร้อมทั้งควบคุมต้นทุนการผลิตให้แข่งขันได้ในระยะยาว

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอน ส่งผลให้ผลงานไตรมาส 3/2568 มีรายได้จากการขาย 1,277.6 ล้านบาท ลดลง 19.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน กำไรสุทธิ 10.9 ล้านบาท ลดลง 89.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรายได้จากการขายจากธุรกิจเอทานอลอยู่ที่ 536.9 ล้านบาท ลดลง 42.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 14.5% จากไตรมาสก่อนหน้า

ส่วนรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังอยู่ที่ 428.5 ล้านบาท ลดลง 21.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง7.4% จากไตรมาสก่อนหน้า และจากการขยายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจร้านอาหารโดยเข้าไปลงทุนร้านอาหารญี่ปุ่นโอชิเน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจร้านอาหารเพิ่มขึ้น 202.7 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายในประเทศ 954.60 ล้านบาท ลดลง 19.10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 1.8% จากไตรมาสก่อนหน้า และมีรายได้จากการขายต่างประเทศ 323.0 ล้านบาท ลดลง 18.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 4.8% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามด้วยยุทธศาสตร์การปรับพอร์ตโฟลิโอ มั่นใจว่ากลยุทธ์กระจายความเสี่ยง (Diversification) จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพด้านรายได้ และสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Back to top button