GLOBAL-ITC-SAWAD ดาวเด่น! จ่อเข้าดัชนี SET50 ครึ่งแรกปี 69

นักวิเคราะห์คาด GLOBAL-ITC และ SAWAD มีโอกาสสูงเข้าดัชนี SET50 รอบครึ่งแรกปี 69 ขณะที่ BCP-KKP และ VGI เสี่ยงถูกถอดออก ส่วน BPP-CKP และ SAPPE มีแนวโน้มเข้าดัชนี SET100


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยบทวิเคราะห์ประเมินผลการคัดเลือกหุ้นเข้า–ออกดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ระบุว่า จากการคำนวณโดยนักวิเคราะห์ข้อมูลของเราโดยใช้ข้อมูลจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2568 ทางฝ่ายวิจัยพบว่ามีโอกาสสูงที่ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC และบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD จะถูกเพิ่มเข้ามาในดัชนี SET50 ในงวดเดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2569 ในขณะเดียวกัน หุ้นสามตัวที่เสี่ยงจะถูกถอนออกจากดัชนี SET 50 ได้แก่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP, ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP และบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI โดย SET กำหนดจะประกาศรายชื่อหุ้นที่จะใช้คำนวณดัชนี SET 50 รอบใหม่ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2569

สำหรับแนวโน้มการปรับดัชนี SET100 นักวิเคราะห์ข้อมูลของเราพบว่า บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP, บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP และบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ  SAPPE มีโอกาสสูงที่จะถูกเพิ่มเข้ามาในดัชนี SET 100 ในขณะที่ บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS, บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK และบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP น่าจะถูกถอดออกจากการคำนวณดัชนี SET100 ในรอบครึ่งแรกของปี 2569

ในบรรดาหุ้นที่มีโอกาสถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET50 รอบใหม่ ฝ่ายวิจัยมองว่า SAWAD มีความน่าสนใจมากที่สุด เนื่องจากเป็นผู้เล่นรายหลักในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อรายย่อยนอกระบบธนาคาร (Non-bank Finance) ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และแผนแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ภาครัฐเพิ่งประกาศออกมาเพิ่มเติม อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและหุ้นกู้ที่ปรับลดลงในช่วงนี้ ยังช่วยลดต้นทุนการระดมทุนของบริษัทได้อีกด้วย

ส่วนผลประกอบการของ ITC ในไตรมาส 3/2568 แม้ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ทางฝ่ายวิจัยไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์เชิงลึกสำหรับหุ้นดังกล่าว

ในขณะเดียวกัน ถ้าหุ้น KKP ย่อลงมาเพราะถูกถอนออกจากดัชนีตามที่คาดจะเป็นโอกาสให้เข้านักลงทุนที่มองหาอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเข้ามาซื้อสะสม โดยนักวิเคราะห์ของเราคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2568 จะอยู่ที่ 6.9% และ ปี 2569 จะอยู่ที่ 7.3%

เมื่ออิงจากรายการหุ้นที่ทางฝ่ายวิจัยคำนวณว่ามีโอกาสจะถูกเพิ่มเข้ามาในดัชนี SET100 พบว่ามีไอเดียเทรดหุ้นจำกัด โดยตัวแรกคือ BPP กำลังอยู่ระหว่างการทำ tender offer โดย BANPU และราคาหุ้นตอบรับข่าวนี้ไปแล้ว

ขณะที่ตัวที่สอง คือ CKP ทางฝ่ายวิจัยมองว่าผ่านช่วงที่ผลประกอบการดีที่สุดตามฤดูกาลของปีนี้ไปแล้ว และส่วนตัวที่สาม คือSAPPE ยังไม่ได้ทำการวิเคราะห์ในขณะนี้ รวมถึงยังมีความไม่แน่นอนสองสามเรื่องเกี่ยวกับจุดหมายการส่งออกในตลาดเอเชียจากการเจรจาการค้าแบบทวิภาคีระหว่างสหรัฐ และประเทศหลักๆ ในเอเชีย

Back to top button