
“ดาวโจนส์” ปิดลบ 300 จุด นักลงทุนกังวล “เฟด” ตรึงดอกเบี้ย ธ.ค.นี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนจากความไม่แน่นอนนโยบายการเงิน หลังโอกาส “เฟด” ลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค. ลดต่ำกว่า 50% ขณะที่หุ้นกลุ่ม AI ยังพยุงตลาดบางส่วน นักลงทุนรอผลประกอบการ Nvidia ที่อาจกำหนดทิศทางตลาดรอบใหม่
ผู้สื่อข่าวรานงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผันผวนในวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน โดยดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ ขณะที่ดัชนีแนสแด็กขยับบวกเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจชะลอแผนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม และนักลงทุนรอประเมินผลประกอบการของบริษัท เอ็นวิเดีย ที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,147.48 จุด ลดลง 309.74 จุด หรือร้อยละ 0.65 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 6,734.11 จุด ลดลง 3.38 จุด หรือร้อยละ 0.05 ขณะที่ดัชนีแนสแด็กปิดที่ 22,900.59 จุด เพิ่มขึ้น 30.23 จุด หรือร้อยละ 0.13 ตลอดสัปดาห์ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นร้อยละ 0.3 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ส่วนดัชนีแนสแด็กลดลงร้อยละ 0.5
ทั้งนี้ การซื้อขายในช่วงเช้าถูกกดดันจากแรงเทขายหลังนักลงทุนไม่มั่นใจแนวโน้มการลดดอกเบี้ย และกังวลต่อมูลค่าหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ที่ปรับตัวขึ้นแรงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดเริ่มปรับลดความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม เหลือต่ำกว่าร้อยละ 50 จากระดับร้อยละ 67 ในสัปดาห์ก่อน ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของบริษัท ซีเอ็มอี กรุ๊ป
ด้าน เจฟฟรีย์ ชมิด ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี เปิดเผยว่าเขายังคงกังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อ ซึ่งมากกว่าผลกระทบจากมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมระบุว่าอาจคัดค้านการปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนธันวาคม เช่นเดียวกับที่เคยคัดค้านในการประชุมเดือนตุลาคมที่เฟดมีมติปรับลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25
โดยในกลุ่มอุตสาหกรรม ดัชนีเอสแอนด์พี 500 มีหุ้น 7 ใน 11 กลุ่มปรับตัวลดลง โดยกลุ่มวัสดุติดลบร้อยละ 1.18 มากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มการเงินที่ลดลงร้อยละ 0.97 ส่วนหุ้นรายตัวที่กดดันดัชนีดาวโจนส์ ได้แก่ หุ้นยูไนเต็ดเฮลท์ กรุ๊ป ที่ร่วงลงร้อยละ 3.2 และหุ้นวีซ่าที่ปรับลดลงร้อยละ 1.8
ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในกลุ่มปัญญาประดิษฐ์กลับสวนทางตลาด โดยหุ้นเอ็นวิเดีย พาลันเทียร์ และไมโครซอฟท์ ปรับขึ้นมากกว่าร้อยละ 1 ช่วยประคองภาวะตลาดโดยรวม นอกจากนี้ หุ้นวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี ปรับขึ้นร้อยละ 4 หลังบริษัทปรับสัญญาจ้างงานประธานเจ้าหน้าที่บริหารระหว่างการทบทวนกลยุทธ์ ขณะที่หุ้นซีดารา เทอร์ราพิวติกส์ เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า หลังบริษัทเมอร์คประกาศเข้าซื้อกิจการในมูลค่าราว 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
