สภาพัฒน์เปิดตัวเลขไตรมาส 3/68 ขยาย 1.2% คาด GDP ปี 68 โต 2% – ปีหน้าอยู่ที่ 1.7%

สศช. เผย GDP ไตรมาส 3 โต 1.2% ชะลอแรงจากไตรมาสก่อน พร้อมคงคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2568 โต 2% ขณะที่ปี 2569 อยู่ที่ 1.7% ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกชะลอ มาตรการภาษีสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ย.68) นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2568 (กรกฎาคม–กันยายน) ว่า GDP ขยายตัว 1.2% ชะลอลงจาก 2.8% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้เศรษฐกิจช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัว 2.4%

โดยการส่งออกขยายตัวที่ 11.5% ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 15% เริ่มเห็นสัญญาณผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกการส่งออกขยายตัวได้ 13.8% ขณะที่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 0.4% และอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 59.65%

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งปี 2568 สศช. คงประมาณการขยายตัวที่ 2.0% ชะลอจาก 2.5% ในปี 2567 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย -0.2% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.8% ของ GDP

ด้านแนวโน้มปี 2569 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในช่วง 1.2–2.2% โดยมีค่ากลางการประมาณการที่ 1.7% ได้แรงหนุนจากการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน แรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ การฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยว และการเพิ่มขึ้นของผลผลิตภาคเกษตร

อย่างไรก็ตาม สศช. ระบุว่า ในปี 2569 เศรษฐกิจไทยยังต้องเฝ้าระวังแรงกดดันสำคัญ ได้แก่

  1. การดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าโดยการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บต่อประเทศไทย
  2. แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก
  3. ระดับหนี้สินภาคเอกชนที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะเป็นข้อจำกัดของการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ
  4. บรรยากาศเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้ง ที่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน

สำหรับประมาณการในกรณีฐาน (Base Case) ปี 2569 สศช. คาดว่า การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัว 2.1% การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 0.9% มูลค่าการส่งออกสินค้า (ดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 0.3% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ในช่วง 0.0–1.0% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.4% ของ GDP

Back to top button