AJD มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10-15% อานิสงส์ยอดขายตู้เติมเงินพุ่ง

AJD มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10-15% อานิสงส์ยอดขายตู้เติมเงินพุ่ง


นายอมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJD เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายตู้เติมเงิน เอเจเติมสบาย ในปีนี้ไว้ที่ 50,000 เครื่อง ซึ่งปัจจุบันมียอดขายกว่า 20,000 เครื่องแล้ว โดยบริษัทฯจะรุกทำการตลาดและสร้างการรับรู้แบรนด์ให้มากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 10-15 จากปีก่อน หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาผลประกอบการออกมาดีเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรรมการบริษัทฯยังมีมติแต่งตั้ง นายขรรค์ ประจวบเหมาะ เป็นกรรมการแทนตำแหน่งกรรมการที่ว่างลงและดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ประธานกรรมการตรวจสอบ โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการเท่ากับวาระที่เหลือของกรรมการที่ลาออก ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2559 เป็นต้นไป

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/59 บริษัทฯมีรายได้รวม 692.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.91 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 521.23 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 126.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,708.43 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 7.00 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 1,288.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.66 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 964.37 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 205.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,089.53 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 17.29 ล้านบาท

สาเหตุที่ผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากรายได้จากการขายและรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มมากขึ้นของบริษัทย่อย (บจก.เวนดิ้ง คอร์ปอเรชั่น ) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายตู้เติมเงินออนไลน์ ต้นทุนขายและต้นทุนบริการเท่ากับ 602.41 ล้านบาท โดยลดลง ร้อยละ 12.54 ของอัตราส่วนต้นทุนขายและต้นทุนบริการต่อรายได้จากการขายและรายได้จากการให้บริการ เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ค่าใช้จ่ายในการขายเท่ากับ 229.12 ล้านบาท โดยลดลง 24.00 ล้านบาท เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 253.12 ล้านบาท คิดเป็นการลดลงร้อยละ 8.47 ของอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายต่อรายได้รวม

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 93.29 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 29.76 ล้านบาท เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 63.53 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.65 ของอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวม และต้นทุนทางการเงินเท่ากับ 15.58 ล้านบาท โดยลดลง 11.56 ล้านบาท เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 27.14 ล้านบาท คิดเป็นการลดลงร้อยละ 1.61 ของอัตราส่วนต้นทุนทางการเงินต่อรายได

Back to top button