
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 14 พ.ย.59
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มการเงิน ซึ่งเป็นผลมาจากความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ดัชนี NASDAQ และ S&P500 ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,868.69 จุด เพิ่มขึ้น 21.03 จุด หรือ +0.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,218.40 จุด ลดลง 18.71 จุด หรือ -0.36% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,164.20 จุด ลดลง 0.25 จุด หรือ -0.01%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มการเงินอย่างคึกคัก เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มการเงินในตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 338.23 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,508.55 จุด เพิ่มขึ้น 19.28 จุด หรือ +0.43% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,693.69 จุด เพิ่มขึ้น 25.74 จุด หรือ +0.24% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,753.18 จุด เพิ่มขึ้น 22.75 จุด หรือ +0.34%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวก เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินสกุลปอนด์
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 22.75 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 6,753.18 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลง เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.ได้หรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันประจำเดือนต.ค.ของโอเปกพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 43.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจจะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในที่สุด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ระดับ 1,221.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 48.9 เซนต์ หรือ 2.81% ปิดที่ 16.893 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 9.6 ดอลลาร์ หรือ 1.02% ปิดที่ 933.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 13 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 697.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า นโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 108.42 เยน จากระดับ 106.77 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9985 ฟรังก์ จากระดับ 0.9889 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3560 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3537 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0729 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0844 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.2491 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2597 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7540 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7543 ดอลลาร์สหรัฐ