KOOL พุ่งเกือบ 8% ลุ้นรายได้ปี 60 โตเด่น

KOOL พุ่งเกือบ 8% ลุ้นรายได้ปี 60 โตเด่น ล่าสุด ณ เวลา 11.06 น. ราคาอยู่ที่ 7.05 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 7.63% สูงสุดที่ 7.25 บาท ต่ำสุดที่ 6.45 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 241.37 ล้านบาท โบรกฯ คาดจำนวนสาขาใน Modern Trade เพิ่มขึ้นกว่า 500 สาขา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)หรือ KOOL ณ เวลา 11.06 น. ราคาอยู่ที่ 7.05 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 7.63% สูงสุดที่ 7.25 บาท ต่ำสุดที่ 6.45 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 241.37 ล้านบาท 

KOOL20171901

ด้านบล.เคทีบี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7 บาท/หุ้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่า KOOL ได้มีการเตรียมความพร้อมค่อนข้างมากแล้วสำหรับช่วงฤดูขายที่กำลังจะมาถึงประมาณเดือน มี.ค.-พ.ค. นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัด หลังจากในปีที่ผ่านมา KOOL ได้ประสบกับปัญหาด้านการบริหารสต็อกสินค้า ทำให้มีสินค้าไม่เพียงพอขาย รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับพนักงานขายใหม่ที่คาดว่ายอดขายพัดลมไอเย็นจะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้

ทั้งนี้ ในส่วนของการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันสินค้ามีไม่เพียงพอในช่วงหน้าขาย KOOL ได้เตรียมแผนการเร่งสต็อกสินค้าเพิ่มขึ้น ทั้งที่บริษัทเอง และได้แจ้งให้ Dealer ในต่างประเทศเตรียมสต็อกสินค้าไว้ให้เพียงพอรองรับหน้าขาย ซึ่งได้เร่งทยอยสต็อกสินค้าตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแล้ว

นอกจากนั้น ในส่วนของ Supplier พัดลมไอเย็นที่มีโรงงานตั้งอยู่ในประเทศจีน ได้มีการวางแผนลดเวลาในการสั่งซื้อสินค้าจนถึงจัดส่งสินค้าให้เหลือประมาณ 10 วัน จากปีก่อนที่ใช้เวลานานถึง 1 เดือน ในส่วนของพนักงานขายได้มีการเตรียมรับพนักงานขายเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับจำนวนสาขาที่ขายสินค้าใน Modern Trade ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาก ที่จากเดิมในปีก่อนจะมีการขายส่วนใหญ่ใน โฮมโปร, แม็คโคร และโลตัสบางสาขา แต่ในปีนี้คาดว่าจะมีการเพิ่มการขายสินค้าในเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ในทุกสาขาที่มีแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย ซึ่งเราประเมินว่าจะมีจำนวนสาขาใน Modern Trade ที่จำหน่ายสินค้าของ KOOL จะเพิ่มขึ้นในช่วงสูงสุดไม่ต่ำกว่า 500 สาขา จากปีก่อนที่ 240 สาขา

ขณะที่ประเมินรายได้ในปี 2017 จะเติบโตราว 40% YoY ปรับเพิ่มจากที่เคยคาดการณ์ไว้เดิมว่าจะเติบโตราว 38% YoY เนื่องจากการเตรียมความพร้อมในช่วงฤดูขายของบริษัทจะทำให้เราคาดว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังประเมินรายได้แบบอนุรักษ์นิยมเมื่อเทียบกับ KOOL ที่ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2017 เติบโต 42% และยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 3 ปี ที่ผ่านมา ที่รายได้เฉลี่ยเติบโต 42% ต่อปี

นอกจากความพร้อมในการขายสินค้าในช่วงหน้าขายหลักแล้ว เราคาดว่าในปี 2017 ตลาดส่งออกจะมีโอกาสเติบโตได้ดีกว่าตลาดในประเทศ โดยปัจจุบัน KOOL มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ เวียดนาม ซึ่งเราคาดว่าในปีนี้ KOOL จะเร่งการทำตลาดในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน รวมถึงการหาตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศเพิ่มรองรับการขายในช่วงที่ตลาดในประเทศอยู่ในช่วง low season เราคาดว่าสัดส่วนการรายได้จากการส่งออกในปี 2017 จะเพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปี 2016 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 23% ทั้งนี้ เนื่องจากเรามีการปรับคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้น เราจึงมีการปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 เพิ่มขึ้นจากเดิมราว 4% เป็น 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% YoY

Back to top button