
กลุ่มการบินร่วงระนาว! รับผลกระทบสรรพสามิตขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน
กลุ่มการบินร่วงระนาว! รับผลกระทบสรรพสามิตขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 10.20 น. ราคาหุ้นบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV อยู่ที่ 6.15 บาท ลบ 0.35 บาท หรือ 5.38% สูงสุดที่ 6.25 บาท ต่ำสุดที่ 5.95 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 371.89 ล้านบาท และราคาหุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI อยู่ที่ 21.90 บาท ลบ 1 บาท หรือ 4.37% สูงสุดที่ 22.20 บาท ต่ำสุดที่ 21.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 450.36 ล้านบาท
ขณะที่ราคาหุ้นบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA อยู่ที่ 21.90 บาท ลบ 0.90 บาท หรือ 3.95% สูงสุดที่ 22.10 บาท ต่ำสุดที่ 21.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 417.80 ล้านบาท และราคาหุ้นบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK อยู่ที่ 7.40 บาท ลบ 0.20 บาท หรือ 2.63% สูงสุดที่ 7.45 บาท ต่ำสุดที่ 7.35 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.18 ล้านบาทขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.17%
โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การที่กระทรวงการคลังได้ประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน สร้าง sentiment เชิงลบให้กลุ่มสายการบินแบบเฉียบพลัน
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มธุรกิจการบินระยะสั้น เนื่องจากมีความไม่ชัดเจนจากข่าวการปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน
ขณะที่ หนังสือพิมพ์รายงานว่า นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรสามิต กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอไปเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมาในการปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินและจัดเก็บภาษีน้ำมันหล่อลื่น โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ส่งผลให้น้ำมันเครื่องบินถูกเก็บภาษีในอัตรา 4 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บที่ 20 สตางค์ต่อลิตร ส่วนน้ำมันหล่อลื่นถูกจัดเก็บอัตราลิตรละ 5 บาทต่อลิตรหรือกิโลกรัม จากเดิมไม่มีการจัดเก็บ
โดยการจัดเก็บภาษีน้ำมันทั้ง 2 ชนิด ดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มปีละประมาณ 8 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นจากภาษีน้ำมันเครื่องบิน 4 พันล้านบาท จากภาษีน้ำมันหล่อลื่น 4-5 พันล้านบาท เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันธุรกิจเดียวกัน