
“เจริญ”ลุยเทนเดอร์ฯ 3 กองรวด ผู้ถือหน่วยหวั่นโดนกดพรีเมี่ยม!
"เจริญ" ลุยเทนเดอร์ฯ 3 กองรวด "TCIF"-"THIF"-"TRIF" ฟาก ผู้ถือหน่วยหวั่นโดนกดพรีเมี่ยม! มั่นใจหากยังถือต่อรับผลตอบแทนสูงกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ ,กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยโฮเทลอินเวสเม้นต์ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทล อินเวสเม้นต์ ได้รับแจ้งจากกลุ่มบริษัท แอสเสท เวิร์ด จำกัด ว่า มีความประสงค์ขอซื้อทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุนรวมทั้ง 3 กองทุน มูลค่ารวม 8 หมื่นล้านบาท โดยผู้เสนอซื้อเป็นบริษัทในกลุ่ม TCC Group หรือกลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นผู้บริหาร ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โครงการที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ TCC Group เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวมโดยมีความสัมพันธ์เป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มของเจ้าของโครงการรายเดิมและบริษัท แอสเสท เวิร์ด จำกัด (AW) เป็นผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ หรือ TCIF เป็นจำนวนร้อยละ 33.0 โดยผู้เสนอซื้อได้ส่งหนังสือถึงบริษัทจัดการระบุราคาเสนอซื้อสุดท้ายเท่ากับ 2.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาสูงสุดตามรายงานการประเมินมูลค่าทรัพย์สินของผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินอิสระทั้ง 2 ราย ทั้งนี้บริษัทจัดการจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อพิจารณาอนุมัติการขายทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุนรวมในวันที่ 17 พ.ค.60
ขณะที่ยังเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยโฮเทลอินเวสเม้นต์ หรือ THIF เป็นจำนวนร้อยละ 33.0 โดยผู้เสนอซื้อได้ส่งหนังสือถึงบริษัทจัดการระบุราคาเสนอซื้อทสุดท้ายเท่ากับ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาสูงสุดตามรายงานการประเมินมูลค่าทรัพย์สินของผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินอิสระทั้ง 3 ราย ทั้งนี้บริษัทจัดการจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อพิจารณาอนุมัติการขายทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุนรวมในวันที่ 18 พ.ค.60
ขณะเดียวกันเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทล อินเวสเม้นต์ หรือ TRIF เป็นจำนวนร้อยละ 30.9 โดยผู้เสนอซื้อได้ส่งหนังสือถึงบริษัทจัดการระบุราคาเสนอซื้อสุดท้ายเท่ากับ 2.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาสูงสุดตามรายงานการประเมินมูลค่าทรัพย์สินของผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินอิสระทั้ง 2 ราย ทั้งนี้บริษัทจัดการจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อพิจารณาอนุมัติการขายทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุนรวมในวันที่ 17 พ.ค.60
อนึ่ง ในกรณีที่ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนลงมติให้ขายทรัพย์สินตามข้อเสนอของผู้เสนอซื้อผู้เสนอซื้อหรือบุคคลที่ผู้เสนอซื้อกำหนดจะรับซื้อหน่วยลงทุนจากผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายที่ประสงค์จะขายให้ที่ได้แจ้งความจำนงที่จะขายหน่วยลงทุนต่อผู้รับซื้อหน่วยลงทุนภายใน 14 วันหลังจากวันประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน (ไม่ว่าจะได้เข้าร่วมประชุมหรือไม่หรือลงมติเช่นไรในการประชุม) ในราคาต่อหน่วยที่เท่ากับราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในช่วง 15 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหน่วย (โดยนับเฉพาะวันที่มีการซื้อขายหน่วยลงทุนนี้เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปจนกว่าจะได้ 15 วัน)
ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวจากผู้ถือหน่วยลงทุน ถึงกรณีที่เสี่ยเจริญจะทำคำเสนอซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าว ว่า ถึงแม้ราคาที่เสี่ยงเจริญจะทำการซื้อนั้นเป็นราคาพรีเมี่ยม แต่อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ากองทุนทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวนั้น เป็นกองทุนเพื่อลงทุนในระยะยาว ดังนั้น มูลค่าของหน่อยลงทุนจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน ซึ่งหากผู้ถือหน่วยลงทุนยังคงถือหน่อยลงทุนต่อไปในอนาคตอาจจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าราคาพรีเมี่ยมที่เสี่ยเจริญจะทำคำเสนอซื้อในตอนนี้