กรมชลฯ สั่งทุกโครงการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำท่วมขัง

กรมชลฯ สั่งทุกโครงการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำท่วมขังหลังฝนตกหนักหลายพื้นที่


นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้สั่งการให้สำนักงานชลประทานทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับมือกับฤดูฝน และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยในพื้นที่ภาคเหนือ สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ โรงเรียนเรยีนา สะพานภาค 5 สะพานข้ามคลองแม่ข่า และวัดไชยมงคล

พร้อมจัดกำลังเตรียมความพร้อมร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 33 เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ในส่วนการดำเนินงานของสำนักงานชลประทานที่ 3 เสริมคันดินแม่น้ำยมช่วงที่ต่ำบริเวณอำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย และอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ตลอดจนเร่งระบายน้ำและพร่องน้ำในคลองในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลบ้านบุ่ง ตำบลฆะมัง และตำบลหัวดงในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เพื่อรองรับปัญหาน้ำหลากที่อาจเกิดขึ้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่สำนักงานชลประทานที่ 5 ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางระบายน้ำลำน้ำห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี ไม่ให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำและพร้อมใช้ระบบชลประทานในการเร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ภาคตะวันออก ในพื้นที่สำนักงานชลประทานที่ 9 ได้ดำเนินการสำรวจเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำที่ติดตั้งประจำจุดในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ให้พร้อมใช้งานอย่างทันท่วงที

ในส่วนของพื้นที่ภาคกลาง สำนักงานชลประทานที่ 10 เร่งกำจัดผักตบชวาในคลองชัยนาท-ป่าสัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 11 ดำเนินการตรวจสอบเครื่องสูบน้ำในพื้นที่คลองบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา สำนักงานชลประทานที่ 12 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดชัยนาท และจังหวัดสุพรรณบุรีอย่างใกล้ชิด ตลอดจนสำนักงานชลประทานที่ 13 ดำเนินการตรวจสอบเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักร เครื่องมือในจังหวัดกาญจนบุรี  และในพื้นที่ภาคใต้ สำนักงานชลประทานที่ 14 ดำเนินการสำรวจเส้นทางระบายน้ำลงทะเลในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างทันท่วงทีในกรณีเกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่อีกด้วย

“หากพื้นที่ใดมีน้ำท่วมขังและต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทร.แจ้งได้ที่สายด่วน 1460 บริการประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมชลประทานจะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่ และแจ้งไปยังหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที กรมชลประทาน จะช่วยเหลือและดูแลพี่น้องเกษตรกร รวมทั้งประชาชนทุกคนอย่างเต็มกำลังความสามารถ และขอให้มั่นใจในการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน”รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว

X
Back to top button