• https://dewanarsitek.id/var/index/
  • https://ept.metropolitanland.com/
  • https://data.pramukajabar.or.id/
  • http://103.206.170.246:8080/visi/
  • https://mpp.jambikota.go.id/
  • https://lms.rentas.co.id/
  • https://utbis.ollinsoft.com/
  • https://bppsdmsempaja.kaltimprov.go.id/
  • https://fmipa.unand.ac.id/
  • https://sptjm.lldikti4.id/banner/
  • mbokslot
  • https://e-journal.faperta.universitasmuarabungo.ac.id/
  • https://link.space/@splus777
  • https://sptjm.lldikti4.id/storage/
  • https://apps.ban-pdm.id/simulasi/hoaks/
  • https://editoriales.facultades.unc.edu.ar/cache/assets/
  • https://dewanarsitek.id/dewan/
  • https://dms.smhg.co.id/assets/js/hitam-link/
  • https://smartgov.bulelengkab.go.id/image/
  • https://app.mywork.com.au/
  • slotplus777
  • https://heylink.me/slotplussweet777/
  • https://pastiwin777.uk/
  • Mbokslot
  • http://103.81.246.107:35200/templates/itax/-/mbok/
  • https://rsjdahm.id/vendor/
  • https://pastiwin777.cfd/
  • https://rsjdahm.id/Vault/
  • https://heylink.me/Mbokslot.com/
  • https://www.intersmartsolution.com
  • https://sikapro-fhisip.ut.ac.id/
  • เฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมวานนี้

    เฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมวานนี้


    คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 เสียง เห็นพ้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้(14 มิ.ย.) ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

    แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน และผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ซึ่งเฟดคาดว่าจะแตะระดับดังกล่าวในปี 2018

    แถลงการณ์ยังระบุว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในระยะใกล้ แต่จะมีเสถียรภาพใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ในระยะกลาง

    การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ของเฟดในปีนี้ และเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มต้นในเดือนธ.ค.2015 และต่อมาในเดือนธ.ค.2016 ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกในเดือนมี.ค.ปีนี้ และครั้งล่าสุดในวันนี้

    กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ โดย 12 จาก 16 ราย คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่กรรมการจำนวนเท่ากัน คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า

    ขณะเดียวกัน กรรมการเฟดได้ปรับลดอัตราการว่างงานในปีนี้ โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 4.3% ในปลายปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 4.5% และคาดว่าจะอยู่ที่ 4.2% ในปีหน้า จากเดิมที่ 4.5%

    กรรมการเฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อสู่ระดับ 1.6% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 1.9% ที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.

    อย่างไรก็ดี กรรมการเฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้สู่ระดับ 2.2% จากเดิมที่ 2.1% ส่วนปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 2.1% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และปี 2019 จะอยู่ที่ 1.9%

    นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลในปีนี้ หากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ ซึ่งการปรับลดงบดุลของเฟด จะส่งผลให้เฟดลดการถือครองพันธบัตร และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่เฟดได้เข้าซื้อในตลาดในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

    เฟดระบุว่า ในเบื้องต้นเฟดจะจำกัดเพดานการลดวงเงินการถือครองพันธบัตรรัฐบาลที่ระดับ 6 พันล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะขยายเพดานการลดการถือครองพันธบัตรอีก 6 พันล้านดอลลาร์ในทุกๆ ไตรมาสในช่วงระยะเวลา 12 เดือน จนกระทั่งแตะระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

    สำหรับตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) นั้น ในเบื้องต้นเฟดจะจำกัดเพดานการลดวงเงินการถือครองที่ระดับ 4 พันล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะขยายเพดานการลดการถือครองอีก 4 พันล้านดอลลาร์ในทุกๆ ไตรมาสในช่วงระยะเวลา 12 เดือน จนกระทั่งแตะระดับ 2 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

    เมื่อการลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และ MBS เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ จะส่งผลให้เฟดสามารถลดการถือครองสินทรัพย์ทั้ง 3 ประเภทในอัตรา 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายคาดหวังว่าการลดการถือครองสินทรัพย์ดังกล่าวจะดำเนินไปจนกระทั่งงบดุลของเฟดลดลงสู่ระดับ 2.0-2.5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

    ทั้งนี้ เฟดได้ถือครองสินทรัพย์จำนวนมากในช่วงที่ดำเนินการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นจำนวน 3 รอบเพื่อกระตุ้นการลงทุน และการจ้างงานในช่วงที่สหรัฐเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และภาวะถดถอยในปี 2007-2009

    Back to top button