ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


สรุปตลาดภาคเช้า

ดัชนีปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในภาคเช้า ในทิศทางเดียวกับตลาดรอบบ้าน โดยตลาดบ้านเราได้ Earning โมเมนตัมของหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งจะมีกำไรฟื้นตัว QoQ และราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้น ช่วยประคองตลาด ดัชนีปิดเพิ่มขึ้น +5.02 จุด (+0.32%) มาอยู่ที่ 1,549.86 จุด มูลค่าซื้อขาย 1.6 หมื่นล้านบาท

 

แนวโน้ม ภาคบ่าย

ประเมินดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ด้วยมุมมองทางเทคนิคที่มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,530 จุด ในระยะสัปดาห์ สำหรับปัจจัยที่แนะนำให้จับตาดูคือการเจรจาการชำระหนี้ของกรีซในวันนี้ เราแนะนำเน้นลงทุนหุ้นกลุ่ม MAI และเก็งกำไรการปรับขึ้นของราคาถ่านหินที่ปรับตัวบวกโดดเด่น เพิ่มขึ้น +10%WoW ซึ่งเป็นผลจากโมเมนตัมของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

PHOL ราคาปิด 5.10 บาท

แนวรับ 5.05 บาท  แนวต้าน 5.50 บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 4.98 บาท

กราฟ  PHOL ปรับตัวลงตั้งแต่ต้นสปัดาห์หลุดกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นลงมา แต่ยังเกาะแนวกรอบเส้น support ได้ โดย RSI กลับมาผงกหัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และสนับสนุนให้มีโอกาสดีดตัวขึ้นไปยังแนวเส้น 5.50 บาทได้ หากผ่าน 5.50 บาทจะเป็นขาขึ้นแรง แต่หากราคาทรงตัวไม่อยู่หลุด 4.98 บาทให้ขายออก เพราะเป็นการจบรอบขึ้นแล้ว

 

เด็กแนว

MILL วันก่อนเล่าให้ฟังแล้วว่าจับตาดูหุ้นตัวนี้ไว้ให้ดี เพราะมีการประกาศเพิ่มทุน PP เพื่อนำเงินไปลงทุนโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์   มีประเด็นที่น่าสนใจและต้องเก็บหุ้นเพราะว่า บริษัทประกาศเพิ่มทุน 500 ล้านหุ้นให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง โดยกำหนดราคาขายว่าจะต้องมีการคำนวณเฉลี่ยระหว่าง 7-15 วันจากนั้นกำหนดราคาไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาเฉลี่ยดังกล่าวนับจากวันที่ได้รับมติจากการประชุมผู้ถือหุ้น 27 เมษายน โดยมีแผนจะไปซื้อ solar farm 30 MW ซึ่งถือว่าใหญ่ จะถือในสัดส่วนเท่าไรก็ต้องมาว่ากันอีกทีในรายละเอียด สิ่งที่จะทำให้บริษัทมีภาระน้อยที่สุดคือการเพิ่มทุนจะต้องได้เงินยิ่งมากยิ่งดี  นั่นหมายความว่าราคาเพิ่มทุนขายให้ผู้ถือหุ้นเฉพาะเจาะจงนี้ก็ต้องได้ราคาดี ยิ่งสูงยิ่งง่ายกับบริษัท ลองย้อนกลับไปดูให้ดี ราคาหุ้น MILL ค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ามีเจ้าเข้าหรือไม่ แต่ตีความกันไม่ยากว่าการขึ้นของราคานี้จะต้องวิ่งยาวไปเรื่อยๆ จนก่อนวันประชุม ผถห  ทั้งนี้เพื่อให้ได้ราคาสูง และเฉลี่ยราคาออกมาดี 

สมมุติหากราคาสามารถทำให้เฉลี่ยได้ถึง 2.5 บาทจะขายไม่ต่ำกว่า 90% หรือไม่ต่ำกว่า 2.25 บาท บริษัทจะได้เงินมา 1.1 พันล้านบาทก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว  แต่ถ้าราคาต่ำจะได้เงินน้อยลง เหนื่อยกับบริษัทที่ต้องไปหาเงินมาใส่เพิ่ม ปัจจัยชัดเจนด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว และช่วงวันประชุมก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ เกี่ยวกับผลประกอบการ Q1 ที่ต้องบอกว่ากำไรบานตะไทเลย ด้านกราฟสร้าง W-shape เต็มตัว และ MACD ตัดขึ้น แบบนี้วิ่งยาวอย่างไม่ต้องสงสัย แนวต้านเห็น 2.10 บาท ในไม่ช้า  เหมือนว่าราคาหุ้นถูกบังคับให้ต้องขึ้นอ่ะ โอกาสของคนเล่นหุ้นมาถึงแล้ว ..  ดื่มนมกันเถอะ

Back to top button