CEI พุ่ง 10.24% หลังปลด SP-ใช้พาร์ใหม่/เล็งดึงต่างชาติรุกพลังงานทดแทน

CEI ณ เวลา 10.35 น. อยู่ที่ 1.40 บาท บวก 0.13 หรือ 10.24% โดยเปิดตลาดที่ 1.23 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.41 บาท แตะระดับต่ำสุดที่ 1.23 บาท มูลค่าการซื้อขาย 175.42 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท คอมพาสส์ อีสต์ อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CEI ณ เวลา 10.35 น. อยู่ที่ 1.40 บาท บวก 0.13 หรือ 10.24% โดยเปิดตลาดที่ 1.23 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่  1.41 บาท แตะระดับต่ำสุดที่ 1.23 บาท มูลค่าการซื้อขาย 175.42 ล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ปลดเครื่องหมาย SP (Suspension) CEI ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันนี้ หลังจากที่ได้ขึ้น SP ตั้งแต่การซื้อขายเมื่อวันที่ 18 มี.ค.58  เป็นต้นมา เนื่องจากบริษัทไม่สามารถนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.58 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯภายในเวลาที่กำหนด แต่บัดนี้ บริษัทได้นำส่งงบการเงินดังกล่าวมายังตลาดหลักทรัพย์แล้ว

อนึ่ง หุ้น CEI มีการขึ้นเครื่องหมาย SP ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.57 เนื่องจากบริษัทไม่สามารถนำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.57 ได้ตามกำหนดเวลา ขณะที่ CEI กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date) ในวันที่ 3 มี.ค.58 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 5 มี.ค.58 ในอัตรา 3 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาจองซื้อหุ้นละ 1 บาท (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท) หรือคิดเป็นราคาจองซื้อที่หุ้นละ 0.25 บาท (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท)

ต่อมาวันที่ 8 เม.ย.58 มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้จากหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.25 บาท ดังนั้น ราคาสูงสุดและต่ำสุดของ CEI ในวันที่ 28 เม.ย.58 จะถูกคำนวณจากราคาปิดวันที่ 15 ธ.ค.57 หักด้วยสิทธิประโยชน์ในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและปรับตามมูลค่าที่ตราไว้ใหม่ ที่ 0.25 บาท ซึ่งเป็นไปตามหลักการคำนวณราคาสูงสุดและต่ำสุดตามปกติ

ขณะที่เช้านี้หนังสือพิมพ์ระบุว่า นายยุทธนา แต่ปางทอง กรรมการผู้จัดการ CEI เปิดเผยว่า บริษัทได้ส่งงบการเงินงวดสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2558 และไตรมาส 2/2558(พ.ย.57-ม.ค. 58) ขาดทุน 2.68 ล้านบาท โดยบริษัทมั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของ CEI หลังจากนี้ไปจะไม่ทำให้นักลงทุนต้องผิดหวัง ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อทำแผนพร้อมวางเป้าหมายธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้า และวางโครงสร้างรายได้ภายใต้การดำเนินธุรกิจ 3 ส่วน อาทิ ธุรกิจเทรดดิ้ง, ธุรกิจพลังงานทดแทน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่ง CEI มั่นใจว่าธุรกิจทุกภาคส่วนจะเติบโตโดดเด่นในระยะอันใกล้นี้แน่นอน

ทั้งนี้ “ธุรกิจเทรดดิ้ง” นำโดยการ “จำหน่ายพัดลม” ล่าสุดมีกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ในประเทศเวียดนามและมัลดีฟส์ เข้ามาเจรจาเพื่อให้บริษัทส่งแบบสินค้าในบางส่วนแล้ว ประกอบกับประมาณเดือนกรกฎาคม 2558 นี้ บริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวใหม่ เชื่อว่าจะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

ส่วน”ธุรกิจพลังงานทดแทน” นั้น ปัจจุบันมีพันธมิตรรายใหญ่ต่างประเทศให้ความสนใจเข้าถือหุ้น CEI และขอร่วมทุนทำโรงไฟฟ้าในประเทศ แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป รวมถึงบริษัทเองก็มีแผนเดินหน้ามองหาโอกาสเข้าซื้อกิจการ(เทกโอเวอร์) โรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย  โดยภายในปี 2559 ตั้งเป้ามีโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหาร 20 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และหากโรงไฟฟ้าได้จากการเทกโอเวอร์จะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในทันที

Back to top button