
“หยวนต้า” รับบัญชีมีช่องโหว่ เหยื่อตุ๋น300ลบ.ยันไม่เคยประสานต่อเนื่อง
"บล.หยวนต้า" ยอมรับระบบบัญชีรับโอนเงินมีปัญหา เหยื่อตุ๋น 300 ลบ. ยืนยันไม่มีการประสานต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีลูกค้าจำนวน 5 คน ของ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาร้องเรียนยังหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ถูก น.ส.จัสมิน ดินแดง พนักงานแนะนำการลงทุน (มาร์เก็ตติ้ง) ของบริษัทชักชวนให้ลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งเป็นการลงทุนในหุ้นมาตั้งแต่ปี 2555 หรือสมัยที่ยังเป็น บล.เคเคเทรด
แต่ต่อมาทราบว่า พนักงานผู้แนะนำการลงทุน หรือมาร์เก็ตติ้งคนดังกล่าวได้ถูกบล.หยวนต้าฯ สั่งให้พ้นสภาพการเป็นพนักงาน และมารู้ความจริงในภายหลังว่า กองทุนที่ตนเองต่างใส่เงินลงไปนั้น ไม่ได้มีอยู่จริง โดยความเสียหายทั้งหมดนั้นคิดเป็นเงินประมาณ 300 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มลูกค้าก็ได้มีการถามกับบล.หยวนต้า ถึงเรื่องกองทุนที่ทั้งหมดได้ลงไปนั้นว่าเป็นอย่างไร ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า กองทุนดังกล่าวไม่ได้มีอยู่จริง และเอกสารที่กลุ่มลูกค้าได้มาโดยตลอดในระหว่างการลงทุนนั้น เป็นเอกสารปลอม ดังนั้น กลุ่มลูกค้าทั้งหมดจึงมีการเรียกร้องให้ทางบล.หยวนต้าฯ ชดใช้ค่าเสียหาย แต่ผ่านมามาถึงวันนี้เวลาได้ล่วงเลยมานานมาก และทางบริษัทยังไม่ได้มีการชี้แจงหรือแจ้งความชัดเจนใดๆ ออกมาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ บอกเพียงว่าให้รอเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสงสัยด้วยว่า เมื่อกลุ่มลูกค้ามีการโอนเงินผ่านระบบของโบรกฯ ไปแล้ว ทางพนักงานมาร์เก็ตติ้งมีการดึงเงินดังกล่าวออกไปได้อย่างไร ระบบของบริษัทมีปัญหาหรือไม่
ล่าสุด นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทุจริตของอดีตพนักงานของบริษัทฯนั้น
“บริษัทฯได้ตรวจสอบพบอดีตพนักงาน กระทำความผิด ระหว่างปี 56-59 ซึ่งเกิดก่อนการเข้าซื้อกิจการ และบริหารงานของผู้บริหารชุดปัจจุบัน และปรากฏข่าวว่าบริษัท เพิกเฉยต่อลูกค้านั้น บริษัทขอเรียนแจงข้อเท็จจริงว่า บริษัทได้ดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่กระบวนการแจ้งให้ลูกค้าทราบ เมื่อตรวจพบ การรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริง ประสานงานในการแจ้งความดำเนินคดี แจ้งเรื่องดำเนินคดีตามกฎหมาย และแจ้งต่อหน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของการเยียวยาความเสียหาย นั้น อยู่ระหว่างการเจรจาและรอหลักฐานเอกสารจากลูกค้าเพิ่มเติม เพื่อประกอบรายการความเสียหายให้ถูกต้องยิ่งขึ้น จึงขอให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจ และเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ขอให้ติดตามข้อเท็จจริงที่ถูกต้องจากสื่อของบริษัทที่แจ้งต่อหน่วยงานทางการเท่านั้น”
ทั้งนี้ การทุจริตดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีกในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ เนื่องจากที่ผ่านมามีช่องว่างในการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร (Pay in) ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง ทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับช่องทางการรับเงินจากลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ โดยไม่ให้รับเงินผ่านช่องทางการโอนเงิน (Pay in) อีกต่อไป แต่ให้เป็นช่องทางที่อ้างอิงได้ว่ามาจากลูกค้าโดยตรง (ATS, E-Payment, Bill Payment) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นมา ทำให้ความเสี่ยงในการใช้ช่องทางการทุจริตดังกล่าวหมดไป
โดยกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า เป็นบริษัทหลักทรัพย์อันดับ 1 จากประเทศไต้หวัน พร้อมให้ความเชื่อมั่นต่อลูกค้าทุกราย และสนับสนุนการบริหารงานของทีมผู้บริหารมืออาชีพ โดยเหตุการณ์นี้ ทางผู้บริหารจะดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี และยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจของบริษัทตามแผนธุรกิจวางไว้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามผู้เสียหายทั้ง 5 ราย ได้ยืนยันว่า ที่ผ่านมา บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ไม่เคยรายงานความคืบหน้า หรือขั้นตอนการตรวจสอบในประเด็นดังกล่าวให้ทราบแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ เคยระบุว่า บริษัทฯจะติดตาม และรายงานผลให้ผู้เสียหายทราบตลอดทุกสัปดาห์