KCเร่งหาบอร์ดแทน“กิติสาร-ธีราสิทธิ์”หลังหลุดจากตำแหน่ง ฐานถูกก.ล.ต.เชือดข้อหายักยอกทรัพย์

KC เร่งหาบอร์ดแทน “กิติสาร-ธีราสิทธิ์” หลังเก้าอี้ผู้บริหารปลิวฐานถูกก.ล.ต.กล่าวโทษในข้อหายักยอกทรัพย์


สืบเนื่องจากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้บริหารและอดีตผู้บริหาร บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC จำนวน 4 ราย ได้แก่ (1) นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร (เปลี่ยนชื่อเป็นนายกฤติภัทร) (2) นายสรรชัย อินทรอักษร (3) นายธีราสิทธิ์ แสงเงิน (4) นายกิติสาร มุขดี

พร้อมพวกอีก 3 ราย ได้แก่ (5) นายเทพทิวา บุตรพรม (6) นางสาวจรูญลักษณ์ คงคาเรียน (เปลี่ยนชื่อเป็น นางสาวนิษฐา) และ (7) นายวีรวัฒน์ สุขวราห์ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกันทุจริต ยักยอกเงินที่ได้จากการออกและเสนอขายตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) ในนามบริษัท เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือบุคคลอื่น แสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้ และยินยอมให้ไม่มีการลงบันทึกบัญชีการขายตั๋ว B/E ทำให้บริษัทลงบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่ตรงต่อความเป็นจริง

ล่าสุด ในวันนี้ (8 ม.ค.61) KC ชี้แจงผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารและอดีตผู้บริหารของบริษัทนั้น ปัจจุบันมีบุคคลที่ถูกกล่าวโทษกรณีบันทึกบัญชีไม่ถูกต้องจำนวน 2 ราย ที่ปัจจุบันยังคงดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ และผู้บริหารของบริษัท ได้แก่ 1) นายกิติสาร มุขดี กรรมการและกรรมการผู้จัดการ 2) นายธีราสิทธิ์ แสงเงินผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกฎหมาย ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัท

โดยบุคคลทั้งสองรายเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตามประกาศ ก.ล.ต. ตามนิยามของ “ผู้บริหาร” ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 3/2560 เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ลงวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

ดังนั้น จึงส่งผลให้กรรมการและผู้บริหารทั้ง 2 ราย พ้นจากตำแหน่ง และไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียนได้ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์

ทั้งนี้ บริษัทได้รับทราบเรื่องดังกล่าวในวันที่ 5 มกราคม 2561 และบุคคลทั้ง 2 ราย ได้พ้นจากตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของบริษัทแล้ว เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 ซึ่งบริษัทกำลังพิจารณาหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามการพ้นจากตำแหน่งผู้บริหารดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด

สำหรับกรณีการพ้นจากตำแหน่งกรรมการของนายกิติสาร มุขดี นั้น ส่งผลให้จำนวนกรรมการของบริษัท ไม่ครบจำนวนตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ซึ่งบริษัทจะเร่งสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่งแทนโดยเร็ว

 

Back to top button