“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” จ่อขาย IPO 180 ล้านหุ้น คาดเข้า SET ช่วง Q2-3/58

"ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" หรือ ORI เตรียมขาย IPO 180 ล้านหุ้น คาดเข้า SET ช่วง Q2-3/58 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์


นายพีระพงส์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมนำเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมจำนวน 30 ล้านหุ้น รวมทั้งหมด 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 301.58 ล้านบาท

ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในช่วงประมาณไตรมาส 2-3 ของปี 2558 นี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์

อีกทั้ง บริษัทยังมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการออกแบบโครงการที่มีเอกลักษณ์ (Uniqueness Project Design) ฟังชั่นการใช้งานห้องชุดที่คุ้มค่า (Best Function of Unit Plan Design) และเป็นเลิศในด้านบริการหลังการขาย (After Sale Service Excellent) โดยบริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมีเนียมที่เป็นผู้บุกเบิกโครงการคอนโดมีเนียมบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง จังหวัดสมุทรปราการ และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้มีการพัฒนาโครงการคอนโดมีเนียมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558  บริษัทฯมีโครงการคอนโดมิเนียมที่ปิดโครงการแล้วจำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 198 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 19 โครงการ โดยแบ่งเป็น โครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จจำนวน 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,919  ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,725 ล้านบาท และโครงการในอนาคต จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 7,170  ล้านบาท

ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ในการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียน  ทั้งนี้บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้มากกว่า 2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 559.4 ล้านบาท ในขณะเดียวกันคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดดจากปีก่อนที่ทำได้ 70.3 ล้านบาท หลังในช่วงไตรมาส 1/58 มีกำไรสุทธิแล้ว 105.3 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายรอโอน (Backlog) 4.3 พันล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5.5 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทฯเตรียมเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 8 โครงการ มูลค่า 7 พันล้านบาท

โดยปัจจุบันมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนาอีก 3 แห่ง พร้อมทั้งตั้งงบลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อที่ดินใหม่ที่จะเน้นตามแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าและนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นทำเลใหม่ที่การแข่งขันยังไม่สูงมากนัก ที่สำคัญกลุ่มลูกค้าในเขตดังกล่าวซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง

สำหรับอัตราปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทฯ ปัจจุบันอยู่ระดับเพียง 2% ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ประมาณ 15-20% เนื่องจากบริษัทฯมีการบริหารและคัดกรองกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการมัดจำขั้นต่ำ 30,000-50,000 บาท และดาวน์ที่อัตรา 10-12% ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ บริษัทฯยังเน้นกลุ่มลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะญี่ปุ่นซึ่งอยู่ทำเลใกล้กับนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการอสังหาฯยังไม่ค่อยขยายในส่วนดังกล่าวมากนัก โดยปัจจุบันมีลูกค้าต่างชาติ 12%

ด้านนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาด IPO ที่ในช่วงหลังไม่ค่อยคึกคัก เนื่องจากเป็นไปตามภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งหากเป็นหุ้นที่พื้นฐานดีราคาจะกลับไปสู่ในระดับที่เหมาะสมเสมอ ซึ่ง ORI ก็เช่นกัน

พร้อมทั้งเชื่อว่าด้วยจุดเด่นด้านการบริหารและศักยภาพในการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้มีอัตรากำไรสุทธิถึง 21% สูงเป็นอันดับต้นๆของอุตสาหกรรม และมีเป้าหมายจะรักษาอัตรากำไรให้อยู่ระดับดังกล่าวต่อไปในอนาคต จึงเชื่อว่าจะเป็นหุ้นอีก 1 บริษัทที่เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว ที่สำคัญมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

Back to top button