PIMO รอรอบใหม่

ประเด็นของการลงทุนเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องคิดมาก เพราะตัวนักลงทุนควรรู้ไว้แค่ว่า บริษัทไหนทำกำไรได้ดี ราคาหุ้นจะขึ้นอย่างมั่นคง ขณะเดียวกันบริษัทไหนที่ทำกำไรได้ไม่ดี ราคาหุ้นจะทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง


ตีแผ่บจ.ดัง

คุณอภิชาต จากดาวคะนอง กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น PIMO หรือ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) ในช่วง 9 เดือนหลังของปี 2560 ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเหมือนกับในช่วง 9 เดือนหลังของปี 2559 ผมเลยอยากรู้ว่า ในปี 2561 บริษัทจะมีข่าวดีใหม่ๆ ให้นักลงทุนได้ตื่นเต้นกันอีกไหม? รวมทั้งราคาหุ้นก็ปรับตัวลงมามากเกินไปเสียด้วย จึงอยากให้อาจารย์ช่วยชี้แนะเรื่องนี้ด้วยครับ

ประเด็นของการลงทุนเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องคิดมาก เพราะตัวนักลงทุนควรรู้ไว้แค่ว่า บริษัทไหนทำกำไรได้ดี ราคาหุ้นจะขึ้นอย่างมั่นคง ขณะเดียวกันบริษัทไหนที่ทำกำไรได้ไม่ดี ราคาหุ้นจะทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

หากเข้าใจข้อมูลเหล่านี้อย่างถ่องแท้ ย่อมมองเห็นโอกาสในการลงทุน และยังมองเป็นอุปสรรคในการซื้อหุ้นไปพร้อมกันอีกด้วย

อาจารย์ถึงไม่อยากให้นักลงทุนด่วนสรุปเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ควรใช้วิธีศึกษาข้อมูลในอดีตเป็นอย่างไร และมองไปถึงสถานการณ์ในปัจจุบันดีขึ้นขนาดไหน ก่อนจะสรุปผลออกมาอย่างเป็นทางการว่า บริษัทนี้ยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าหรือไม่นะครับ

นี่เป็นข้อมูลที่อาจารย์อยากให้นักลงทุนนำไปใช้วิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น PIMO หรือ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) เพราะเป็นการฉายภาพในมุมต่างๆ ที่ตัวนักลงทุนอยากรู้ได้ชัดเจนขึ้น และการมองภาพแบบนี้ได้ด้วยตนเอง มักจะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการซื้อหุ้นมากขึ้นแน่นอน

เมื่อเข้าใจรูปแบบการคิดต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย ก็เป็นคิวของการพิจารณาตัวเลขผลการดำเนินงาน เพื่อใช้สำหรับการประเมินสถานการณ์ของหุ้น PIMO ในอนาคตจะกลับมาสดใสได้อีกครั้งไหม เพราะผลการดำเนินงานในปี 2560 ก็ไม่โดดเด่นแบบอย่างมีนัยสำคัญ จึงต้องติดตามดูสถานการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ถึงกระนั้นก็สามารถประเมินราคาเป้าหมายเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นหลักคิดง่ายๆ ที่อาจารย์ชอบแนะนำนักลงทุนให้ไปประยุกต์ใช้เป็นประจำก็คือ ตั้งสมมติฐานกำไรปี 2560 ใกล้เคียงกับปี 2559 ก็จะได้กำไรต่อหุ้นที่ระดับ 0.08 บาท ต่อจากนั้นนำไปเทียบกับการเทรดของหุ้นบนค่า P/E 40 เท่า ก็จะได้ราคาเป้าหมาย 3.20 บาทเป็นจุดสูงสุดของการเล่นเที่ยวนี้

หากลดทอนค่า P/E ลงมาอยู่ในระดับ 30 เท่า ก็จะได้ราคาเป้าหมาย 2.40 บาท หรือจะกดลงให้เหลือแค่ P/E 20 เท่า ก็จะได้ราคาเป้าแค่ 1.60 บาทเท่านั้นเอง

วันนี้อาจารย์ถึงอยากให้นักลงทุนตัดสินใจกันเอาเองว่า ควรใช้สูตรไหนในการพิจารณาราคาเหมาะสมของหุ้น ประกอบกับสิ่งที่เห็น ณ ตอนนี้คือ PIMO กำลังเซ็ตตัวรอบใหม่ นักลงทุนก็ควรจะมองโลกในแง่บวกมากกว่าแง่ลบ เพราะผลงานในปี 2561 น่าจะดีกว่าปี 2560 ซึ่งเป็นเป้าที่ผู้บริหารชอบพูดเป็นประจำนะครับ

สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

Back to top button