“วิษณุ”ชี้พ.ร.ก.คุมเงินดิจิทัลสกัดฟอกเงิน-ซื้อเสียงเลือกตั้ง กลต.ผสมโรง! เชื่อลดการทุจริต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 พ.ค.2561) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงานซิมโพเซียม ไทยแลนด์ 4.0 ว่า คริปโตเคอร์เรนซี่ เป็นการซื้อขายสกุลเงินแบบใหม่อาจทำให้เกิดโจรกรรมผ่านทางอินเตอร์เนต การหลอกลวงให้เอาเงินจริงมาลง เหมือนกรณีแชร์แม่ชม้อยได้ หากไม่กำกับดูแลไทยจะเป็นสวรรค์แห่งการฟอกเงิน อาจมีเรื่องของการก่อการร้ายข้ามชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจมีผู้นำเงินจากการทำผิดกฎหมายเข้าลงทุนผ่านสกุลเงินดิจิทัล อาทิ สกุลเงิน Bitcoin (บิทคอยน์) พร้อมยกตัวอย่างว่า กรณีประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้ง อาจมีคำเตือนให้รัฐบาลไทยระวังว่าอาจมีการใช้เงินในการซื้อสิทธิ์ขายเสียงทุจริตการเลือกตั้งได้เช่นกัน

ด้าน นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในการป้องกันความเสี่ยงฟินเทค (Fintech) หรือเทคโนโลยีทางการเงิน นั้น ธปท.ต้องเข้ามากำกับดูแล ใน 8 มิติ เพื่อการรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน,คุ้มครองการรับบริการทางการเงิน, ป้องกันการฟอกเงิน, รักษาเสถียรภาพของค่าเงิน,ป้องกันผลกระทบฐานภาษี และความไม่เท่าเทียมกันในการแข่งขัน, สร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์, พัฒนาระบบกลางเพื่อลดต้นทุนของผู้ประกอบการ,และป้องกันการนำธุรกรรมทางการเงินไปเป็นเครื่องมือในการทำผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน เรื่องนี้ถือมีความสำคัญอย่างยิ่งจึงต้องมีการออกกฎหมายมากำกับดูแล

ขณะที่ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ในประกาศของ คปภ.ยังไม่อนุญาตให้บริษัทประกันภัยลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ ในขณะนี้ เพราะยังมองว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง

 

ด้าน นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.เหมือนยืนอยู่กลางสี่แยก เพราะยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า การระดมทุนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในอนาคตจะมีต่อไปหรือไม่ หรือการระดมทุนจากทั่วโลกด้วยวิธี (Initial Coin Offering) หรือ ICO จะได้ผลอย่างสมบูรณ์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น กลต. จำเป็นต้องมีกฎหมาย เพื่อช่วยกำกับดูแล และไม่ให้มีการนำ ICO ไปใช้ผิดกฎหมาย