BTS บวกสวนตลาด ลุ้นรับงานรถไฟฟ้าหลายสาย-ปันผลโดดเด่น เป้าสูงสุด 11.20 บ.

BTS บวกสวนตลาด ราคามีอัพไซด์ คาดกลับมาโดดเด่นปี 58 ที่ได้งานรถไฟฟ้าหลายสายหนุนกำไรเพิ่มเป็น 73% หลังจะบันทึกกำไรพิเศษ และยังเตรียมปันผล 0.30 บ. คาดปี 59 จะโตเพิ่มขึ้นกว่า 63% หากรวมกำไรพิเศษ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ณ. เวลา ปิดตลาดช่วงเช้า ราคาอยู่ที่ 9.85 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 2.07% ราคาสูงสุด 9.95 บาท ราคาต่ำสุด 9.65 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 859.71 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.18%

 

 

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น BTS ราคาเป้าหมาย 10.40 บาทต่อหุ้น คาดจะกลับมาโดดเด่นโดยมองว่าจะได้งานรถไฟฟ้าหลายสาย ล่าสุดแม้ทางคุณคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ BTS จะออกมาไม่เห็นด้วยกับรัฐที่จะให้สายสีชมพูและเหลืองเป็นการให้เอกชนลงทุนทั้งหมด แต่ BTS ยังมีศักยภาพมากสุด ด้านคาดการณ์การเติบโตกำไรสุทธิปีนี้สูงเป็น 73% เพราะบันทึกกำไรพิเศษเข้ามา แต่กำไรปกติก็คาดว่าจะเติบโตดีเป็น 20% จากปีก่อนหน้า เพราะปี 57-58 ที่ผ่านมา VGI มีกำไรที่ย่ำแย่ที่สุดแล้ว และจะมีการคืนหนี้เงินกู้ลดดอกเบี้ยจ่ายลงได้อีก

ขณะที่ รมว.คมนาคมมีแนวคิดจะให้รฟม.เจรจาตรงกับ BTS ในส่วนของสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) แต่เดิม กทม.รับไปทำเรื่องนี้ ต่อมาภายหลังมีเรื่องภาวะการขาดทุนที่ยาวนานขึ้น จึงทำให้เรื่องมีโอกาสจะยืดเยื้อ ทาง รมว.คมนาคมจึงมีแนวคิดที่จะไม่รอ กทม. และให้ทาง รฟม.กลับมาเจรจาตรงกับผู้ประกอบการ แต่แนวโน้มจะเป็น BTS มาวิ่งบริการต่อจากเส้นทางเดิม เพราะระยะทางสั้นแค่ 13 กม. คาดว่าหากเอกชนรายใหม่มาลงทุนอาจจะไม่คุ้ม และที่สำคัญผู้โดยสารจะไม่สะดวกในการต้องขึ้นและลงเมื่อเปลี่ยนขบวนรถ

อย่างไรก็ตาม BTS เตรียมเข้าหารือกับรมว.คมนาคมเรื่องรถไฟทางคู่ เรื่องจัดหาหัวรถจักรไฟฟ้าและระบบรถไฟทางคู่ ขนาดรางกว้าง 1 เมตร (Meter Gauge) และมีแผนพัฒนาที่ดินของ รฟท. โดยนำร่องที่เส้นทางชุมทาง จิระ-ขอนแก่น นอกจากนี้ BTS จะนำเสนอแผนพัฒนาที่ดินของ รฟท.ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯด้วย

 

ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) แนะนำ “ซื้อ” BTS ราคาเป้าหมาย 11.20 บาทต่อหุ้น เนื่องจาก BTS ได้ประกาศจ่ายปันผลอีก 0.30 บาท (ทั้งปี 0.60 บาท) ขึ้น XD 31 ก.ค. 58 และจ่าย 17 ส.ค. 2558 ทั้งนี้ คาดว่าในปี 59 กำไรปกติโต 9.9% แต่หากรวมกำไรพิเศษโต 63.1% เนื่องจากตั้งเป้าธุรกิจในด้านต่างๆ ดังนี้ 1.รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ 610 ล้านบาท ทั้งจากโครงการแอ็บสแตร็กส์ พหลโยธินและธนาซิตี้ 2.รายได้จากอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ 590 ล้านบาท จากโรงแรมในกลุ่ม U และ U สาทรที่เพิ่งเปิด รวมถึงธนาซิตี้ กอล์ฟคลับ

3.รายได้จากการบริการเดินรถโต 3% 4.รายได้จากโฆษณาลดลง 12% เนื่องจากรายได้ในโมเดิร์นเทรดที่หายไป 5.การเปิดร้านอาหาร Chefman อีก 6-7 แห่ง 6.บริการบัตรแรบบิทจาก 3.5 ล้านใบ เป็น 5 ล้านใบ และ 7.BTSGIF คาดผู้โดยสารโต 4-6% และค่าโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวโต 2% แต่ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นเป็น 280 ล้านบาท จากทั้งหมดทางฝ่ายคาดรายได้จากการดำเนินงานในปี 59 โตที่ 5.2% เป็น 6,457 ล้านบาท

ขณะที่คาดว่าต้นทุนจะทรงตัว หลังจากต้นทุนในส่วนโมเดิร์นเทรดหายไป จึงคาดจะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 2,486 ล้านบาท โต 9.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เมื่อรวมกำไรจากการขายที่ดินและโรงแรมให้กับ U จะทำให้มีกำไรสุทธิที่ 4,803 ล้านบาท โตขึ้น 63.1% และปี 59 จะเป็นปีสุดท้ายที่ได้มีการ กำหนดจำนวนเงินจ่ายปันผลรวมที่ 8,000 ล้านบาท ซึ่งหากคำนวณจำนวนหุ้นในปัจจุบัน คาดเงินปันผลในปี 59 จะอยู่ที่ 0.67 บาท ซึ่งให้ yield เกือบ 7% บนวิธี SOTP โดยรวมมูลค่าเงินลงทุนใน U เข้ามา 

Back to top button