ดีเดย์ 15 ส.ค.61 ก.ล.ต.ล้างบางสกุลดิจิทัลนอกรีต!

ดีเดย์ 15 ส.ค.61! ก.ล.ต.ล้างบางสกุลดิจิทัลนอกรีต


สืบเนื่องจากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจดิจิทัลภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 ซึ่งการขออนุญาตดังกล่าว จะครบกำหนด 90 วันภายในวันนี้ (14 สิงหาคม 2561)

โดยหากผู้ประกอบการมายื่นขออนุญาตภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2561 จะยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้จนกว่าจะถูกสั่งห้าม ส่วนผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหม่จะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะเริ่มประกอบธุรกิจได้ อย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบการที่ไม่ได้เข้ามายื่นขออนุญาติกับก.ล.ต.ภายในวันนี้ และทำการเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะเท่ากับว่ากระทำผิดกฎหมายหลักทรัพย์หรือกฎหมายการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

ทั้งนี้ แหล่งข่าวในวงการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลยื่นขออนุญาตกับ ก.ล.ต.ไปแล้วประมาณ 50 บริษัท ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของก.ล.ต.

อนึ่ง การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีมาตรฐานตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด อาทิ มีแหล่งเงินทุนเพียงพอ มีความปลอดภัยและการบริหารความเสี่ยงจากโจรกรรม มีการรู้จักและตรวจสอบข้อเท็จจริงของลูกค้า มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจเหล่านี้อยู่แล้วก่อนวันที่พระราชกำหนดนี้มีผลใช้บังคับ

โดยในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย หากพบการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายแลกเปลี่ยนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะเอาผิดได้เทียบเคียงกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่น การบอกกล่าว เผยแพร่ หรือเปิดเผยข้อความที่เป็นเท็จทำให้สำคัญผิด การใช้ข้อมูลภายใน การซื้อขายตัดหน้าลูกค้า การสร้างราคาให้ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เป็นต้น  รวมถึงมีความผิดเกี่ยวกับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

ด้าน นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า มีการหลอกลวงโดยอ้างถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในหลายกรณี ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายของผู้ลงทุนในมูลค่าที่สูง จึงเป็นที่มาของการจัดทำ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เพื่อกำหนดกรอบการกำกับดูแลให้ผู้ออกโทเคนดิจิทัล และผู้ที่ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกได้

ทั้งนี้ หากประชาชนถูกชักชวนให้ลงทุนในไอซีโอหรือซื้อโทเคนดิจิทัลในช่วงนี้ ขอให้ทราบว่า ในปัจจุบันยังไม่มีผู้ออกไอซีโอรายใดได้รับการอนุญาต รวมทั้งยังไม่มีผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ( ICO portal) ที่ได้รับการยอมรับจาก ก.ล.ต. ซึ่งในอนาคตเมื่อมีผู้ออกไอซีโอ หรือ ICO portal ที่เป็นไปตามเกณฑ์แล้ว  ก.ล.ต. จะเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. ต่อไป

ส่วนกรณีที่ถูกชักชวนให้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลโดยมีผู้แสดงตนเป็นตัวกลาง ไม่ว่าจะในฐานะศูนย์ซื้อขาย นายหน้า หรือผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น  ก.ล.ต. ขอให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ติดต่อชักชวนบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. ก่อน ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบันได้ ต้องเป็นผู้ที่ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ก่อนวันที่ 14 พฤษภาคม 2561

โดยหากมายื่นขออนุญาตภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2561 จะสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้จนกว่าจะถูกสั่งห้าม ส่วนผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหม่จะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะเริ่มประกอบธุรกิจได้หากพบว่า ผู้ที่มาติดต่อชักชวนไม่อยู่ในรายชื่อดังกล่าว ขอให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

“อนึ่ง กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวตำรวจกองปราบปรามได้จับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน โดยผู้เสียหายถูกชักชวนให้ลงทุนประกอบธุรกิจประเภท ซื้อ-ขาย สกุลเงินดิจิทัล และผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินดิจิทัลสกุลบิทคอยน์ คิดเป็นเงินไทยจำนวนกว่า 797 ล้านบาท ในชั้นนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและจะนำมาพิจารณาว่ามีการกระทำส่วนใดที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายหลักทรัพย์หรือกฎหมายการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีส่วนที่เกี่ยวข้อง ก.ล.ต. จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด” นายรพีกล่าวเสริม

 

อนึ่ง พระราชกำหนดฯ ได้กำหนดนิยามของสินทรัพย์ดิจิทัล ประกอบด้วย คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัล ซึ่งจะหมายความรวมถึงหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดด้วย ครอบคลุมการกำกับดูแลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ต่อประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อกำกับดูแลการระดมทุนผ่านการเสนอขายโทเคนดิจิทัล รวมทั้งการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ

ทั้งนี้ ในด้านการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ต่อประชาชน จะทำได้เฉพาะนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งต้องได้รับอนุญาตและต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อ ก.ล.ต. โดยเสนอขายผ่านผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต.  นอกจากนี้ ผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลมีหน้าที่จัดทำและส่งรายงานเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและฐานะการเงิน และข้อมูลที่อาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือโทเคนดิจิทัล หรือต่อการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชนและผู้ลงทุน

ด้านการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจข้างต้นต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีมาตรฐานตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด อาทิ มีแหล่งเงินทุนเพียงพอ มีความปลอดภัยและการบริหารความเสี่ยงจากโจรกรรม มีการรู้จักและตรวจสอบข้อเท็จจริงของลูกค้า มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจเหล่านี้อยู่แล้วก่อนวันที่พระราชกำหนดนี้มีผลใช้บังคับ ต้องยื่นขออนุญาตภายใน 90 วัน คือภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2561 โดยทำธุรกิจต่อไปได้จนกว่าจะมีคำสั่งไม่อนุญาต

อย่างไรก็ดี เพื่อป้องกันการนำคริปโทเคอร์เรนซีที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจนมาใช้ในธุรกรรม ผู้ประกอบธุรกิจที่เสนอขายโทเคนดิจิทัลและให้คริปโทเคอร์เรนซีเป็นการตอบแทน หรือรับคริปโทเคอร์เรนซีจากลูกค้า จะรับได้เฉพาะคริปโทเคอร์เรนซีที่ได้จากการซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือฝาก ไว้กับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามที่กำหนดในกฎหมายนี้เท่านั้น และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินด้วย

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ก.ล.ต. สามารถยกเว้นการออกและเสนอขาย หรือการเป็นตัวกลางในบางลักษณะจากการกำกับดูแลได้

โดยในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย หากพบการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายแลกเปลี่ยนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จะเอาผิดได้เทียบเคียงกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่น การบอกกล่าว เผยแพร่ หรือเปิดเผยข้อความที่เป็นเท็จทำให้สำคัญผิด การใช้ข้อมูลภายใน การซื้อขายตัดหน้าลูกค้า การสร้างราคาให้ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เป็นต้น  รวมถึงมีความผิดเกี่ยวกับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ การลงทุนโทเคนดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซีในต่างประเทศจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายนี้

Back to top button