สรุปภาวะตลาดเงินต่างประเทศประจำวันที่ 21 ส.ค. 2561

 สรุปภาวะตลาดเงินต่างประเทศ


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองในด้านบวกเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนส.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในสัปดาห์นี้เช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,822.29 จุด เพิ่มขึ้น 63.60 จุด หรือ +0.25% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,862.96 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด หรือ +0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,859.17 จุด เพิ่มขึ้น 38.17 จุด หรือ +0.49%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเวชภัณฑ์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนส.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในสัปดาห์นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 384.15 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,408.60 จุด เพิ่มขึ้น 28.95 จุด หรือ +0.54% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,384.49 จุด เพิ่มขึ้น 53.19 จุด หรือ +0.43%  ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,565.70 จุด ลดลง 25.56 จุด หรือ -0.34%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง หลังจากบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองรายใหญ่ได้เปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,565.70 จุด ลดลง 25.56 จุด หรือ -0.34%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 1200.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 9.6 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 14.766 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 90 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 793.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 11.30 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 910 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกอาจประสบภาวะตึงตัว จากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 67.35 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 72.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของเฟด และการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์นี้

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9852 ฟรังก์ จากระดับ 0.9920 ฟรังก์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.41 เยน จากระดับ 110.21 เยน

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1572 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1467 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น แตะระดับ 1.2902 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2785 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7365 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7327 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button