ก.ล.ต.เตรียมอนุมัติ “ICO Portal” รายแรกสิ้นพ.ย.นี้ ฟาก “Exchange” ลุ้นคลังไฟเขียวธ.ค.

ก.ล.ต.เตรียมอนุมัติ "ICO Portal" รายแรกสิ้นพ.ย.นี้ ฟาก "Exchange" ลุ้นคลังไฟเขียวธ.ค.


นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่ต้องการดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) โดยคาดว่าจะสามารถอนุมัติได้อย่างน้อย 1 รายภายในสิ้นเดือน พ.ย. ขณะที่ในส่วนของผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ยังต้องรอการอนุมัติจากกระทรวงคลังต่อไป หลังจากนั้นจึงจะเริ่มกระบวนการอนุมัติการระดมทุนด้วย Initial Coin Offering (ICO) ได้ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้

“ICO portal ตอนนี้อยู่ในกระบวนการที่อย่างน้อย 1 ราย ที่อยู่ใน pipe line ที่จะสามารถอนุญาตในเร็ววันนี้ ภายในสิ้นเดือนนี้ก็จะอนุญาตได้ ส่วนผู้ประกอบการที่เป็นกระบวนการ Exchange ขั้นตอนทั้งหมดตอนนี้กำลังทำเรื่องเสนอไปที่รมว.คลัง ในการที่จะออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการต่อไป ทั้งหมด 4-5 รายที่เราทำเรื่องไปที่กระทรวงการคลัง ตอนนี้เสนอไปแล้ว กระบวนการอยู่ที่กระบวนการกระทรวงการคลังอนุมัติต่อไป หลังจากตรงนี้แล้วจึงจะมีกระบวนการอนุมัติ ICO เป็นราย ๆ ได้ เราคิดว่ากระบวนการทั้งหมดน่าจะเริ่มภายในในเดือนธันวาคม”นายรพี กล่าว

นายรพี ยืนยันว่าการระดมทุนด้วย ICO ในปัจจุบันยังไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งก.ล.ต.ก็มีหน้าที่เตือนและทำความเข้าใจให้กับนักลงทุน โดยตามบทบาทของก.ล.ต.มีหน้าที่กำกับดูแล สร้างมาตรฐานผู้ประกอบการให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสม และให้มีการเปิดเผยข้อมูลถูกต้องให้นักลงทุนเข้าใจ รวมถึงเตือนนักลงทุนว่าตลาดดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงมาก จึงต้องส่งเสริมให้ความรู้กับนักลงทุนเพื่อให้เกิดความเข้าใจก่อนการลงทุนด้วย

ทั้งนี้ ล่าสุดก.ล.ต.ได้ออกโครงการ “5 ขั้นมั่นใจลงทุน” ซึ่งเป็นบริการดูแลการลงทุนอย่างครบวงจรรูปแบบใหม่ที่เตรียมความพร้อมสู่อิสรภาพทางการเงินในระยะยาว ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแล้ว 26 ราย ซึ่งจะสามารถให้บริการออกแบบการลงทุนทั้ง 5 ขั้นตอนได้ภายใต้ขอบเขตธุรกิจที่ได้รับอนุญาต สำหรับ 5 ขั้นตอนดังกล่าว ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์ความต้องการ , ขั้นที่ 2 กำหนดสัดส่วนการแบง่เงินลงทุน ,ขั้นที่ 3 การเลือกลงทุนตามเป้าหมาย ,ขั้นที่ 4 การติดตามและปรับกลยุทธ์ และ ขั้นที่ 5 รายงานทุกสถานะการลงทุน

นายรพี คาดว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยี แพลตฟอร์มด้านต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้านอกเหนือจากการใช้บุคลากรที่มีอยู่ในการแนะนำ รวมถึงการที่ลูกค้าซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่มีความตื่นตัวและเปิดรับในด้านข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ก็จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการเข้ามาลงทุนและจะทำให้เกิดการเปลี่ยนโฉมตลาดทุนไทยในช่วง 5 ปีข้างหน้าได้ หลังจากที่การเข้ามาลงทุนดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนมีเป้าหมายที่จะสร้างความมั่งคั่ง (wealth) ระยะยาว และทำให้ภาพตลาดทุนเติบโตขึ้น จากปัจจุบันที่มีการลงทุนในตลาดทุนเพียงแค่ระดับ 3 ล้านคนเท่านั้น

“ตอนนี้เหมือนทุกคนอยากจะได้เงินก้อนเพื่อการเกษียณแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ขาดเครื่องมือ เพราะอดีตเครื่องมือหล่านี้คือคน ซึ่งแพงมาก ยากมากที่จะสอนให้คนแนะนำในส่วนนี้ได้ แต่ตอนนี้กลับมาประเด็นที่มีเครื่องมือเป็นตัวช่วย เพื่อที่จะให้ความรู้ของเราสามารถแปลงคำแนะนำได้ถูกต้องอันนี้เป็นจุดเปลี่ยน”นายรพี กล่าว

สำหรับกรณีที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จะสิ้นสุดโครงการในสิ้นปี 62 โดยผู้ลงทุนจะหมดอายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการลงทุนในกองทุน LTF นั้นเห็นว่า เรื่องดังกล่าวต้องปรับแนวคิดของผู้ลงทุนมองการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นการลงทุนระยะยาวตั้งแต่ 10 ปี ไม่ใช่เพียง 5-7 ปี ซึ่งการลงทุนในระยะยาวดังกล่าวมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่มากกว่าหลายเท่า เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับผ่านการลงทุนใน LTF  และยังเป็นการสร้าง wealth ของตัวเองในระยะยาวด้วย

นายรพี กล่าวถึงความคืบหน้าการคัดเลือกเลขาธิการ ก.ล.ต.คนใหม่ว่า ขณะนี้ได้ส่งรายชื่อให้กับกระทรวงการคลังแล้วหลังจากผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมคณะกรรมการก.ล.ต. เมื่อช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา โดยในส่วนของตนเองไม่ได้เข้าร่วมสมัครเพื่อดำรงตำแหน่งอีกวาระหลังจากที่จะครบวาระในช่วงเดือนพ.ค.62

Back to top button