BPP วางเป้ากำไรปีนี้ไม่ต่ำกว่า 3.81 พันลบ. เล็งอัพกำลังการผลิตรับดีลซื้อกิจการ

BPP วางเป้ากำไรปีนี้ไม่ต่ำกว่า 3.81 พันลบ. เล็งอัพกำลังการผลิตรับดีลซื้อกิจการ-สร้างรฟฟ.ไทย-เวียดนาม


นายสุธี สุขเรือน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับเพิ่มเป้าหมายกำลังผลิตไฟฟ้าในมือจากเดิม 4,300 เมกะวัตต์ (MW) ภายในปี 68 หลังมองเห็นศักยภาพการหากำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่มีเพิ่มขึ้น ทั้งดีลการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ในจีน,ญี่ปุ่น และเวียดนาม รวมถึงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป (Conventional) ในไทยและเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ได้ภายในครึ่งแรกปีนี้

โดยปัจจุบัน BPP มีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือ 2,869 เมกะวัตต์ จากโครงการโรงไฟฟ้า 28 แห่ง ในไทย ,จีน ,ญี่ปุ่น ,เวียดนาม ,ลาว โดยเป็นโครงการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 17 แห่ง กำลังผลิตรวม 2,145 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 11 แห่ง กำลังผลิตรวม 724 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอย COD ครบในปี 66

สำหรับปีนี้บริษัทวางเป้าหมายจะมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่าระดับ 3.81 พันล้านบาทในปีก่อน จากกำลังผลิตไฟฟ้าที่จะ COD ในปีนี้รวมประมาณ 114 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น ส่วนขยายโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่จีน 1 โครงการ ขนาด 52 เมกะวัตต์  และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นจำนวน 5 โครงการ รวม 62 เมกะวัตต์ ขณะที่ปีนี้ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี เหมือนปีที่ผ่านมา ทำให้คาดว่าโรงไฟฟ้าจะมีประสิทธิภาพเดินเครื่องผลิตได้ดีขึ้นมาเป็นระดับไม่ต่ำกว่า 98%

รวมถึงรักษาประสิทธิภาพการเดินเครื่องผลิตของโรงไฟฟ้าหงสา ในลาว ไว้ที่ระดับ 87% เหมือนปีก่อน ซึ่งจะทำให้ในปีนี้มีส่วนแบ่งของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มาจากโรงไฟฟ้าหงสา 40% , โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี 30% ส่วนที่เหลือ 30% มาจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน และโรงไฟฟ้าในจีน

ทั้งนี้ บริษัทมีศักยภาพในการจัดหาแหล่งเงินลงทุน เพื่อรองรับการหากำลังการผลิตใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในมือและการพัฒนาโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในมือแล้ว เนื่องจากมีภาระหนี้สินต่อทุนต่ำทำให้มีศักยภาพในการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนได้ โดยตั้งงบลงทุนในปี 62-63 ไว้จำนวน 125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในมือ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงทั่วไป จำนวน 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 65 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  โดยยังไม่รวมงบลงทุนสำหรับทำดีล M&A

Back to top button