
SET ปิดลดช่วงบวกเหลือ 6 จุด หลังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ 1,650 จุด
SET ปิดลดช่วงบวกเหลือ 6 จุด หลังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ 1,650 จุด โดยดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,644.64 จุด บวก 5.99 จุด หรือ 0.37% มูลค่าการซื้อขาย 4.45 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,644.64 จุด บวก 5.99 จุด หรือ 0.37% มูลค่าการซื้อขาย 4.45 หมื่นล้านบาท
10 หุ้นดันดัชนีวันนี้
ด้าน บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ดัชนีเดินหน้าขึ้นทดสอบแนวต้านแต่ยังไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ในขณะที่ MACD ดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่ Modi. Sto. มีภาวะ Overbought ทำให้มีโอกาสที่ดัชนีจะพักตัวสั้นๆในช่วงบ่ายนี้ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1645 และ 1635 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1650 และ 1660 จุด
ขณะเดียวกัน นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับแรงหนุนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีพัฒนาการในเชิงบวก ทำให้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดสหรัฐฯปรับตัวขึ้นแรง
นอกจากนี้ สืบเนื่องจาก MSCI จะปรับวิธีการคำนวณโดยรวม NVDR เข้ามาด้วย ทำให้น้ำหนักลงทุนหุ้นไทยเพิ่มขึ้นเป็น 3% จากเดิม 2.5% ซึ่งก็จะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาในไทยมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ช่วงนี้ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway up ได้ โดยในเดือนเม.ย.นี้มีโอกาสที่ Fund Flow จะไหลเข้า อย่างไรก็ดี ให้ติดตามความคืบหน้าการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit), สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,640 และ 1,635 จุด ส่วนแนวต้าน 1,655 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,109.70 ล้านบาท ปิดที่ 75.75 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,092.71 ล้านบาท ปิดที่ 130 บาท ลดลง 2 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,059.67 ล้านบาท ปิดที่ 48 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,335.21 ล้านบาท ปิดที่ 488 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,277.42 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท ลดลง 1 บาท
ตลาดหุ้นเอเชีย