“สตาร์บัคส์” ประกาศปิด 2 พันสาขาในจีนเซ่นไวรัส “โคโรนา” ระบาด ส่อแววกำไรปีนี้ลดฮวบ!

“สตาร์บัคส์” ประกาศปิด 2 พันสาขาในจีนเซ่นไวรัส “โคโรนา” ระบาด ส่อแววกำไรปีนี้ลดฮวบ!


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านกาแฟจากอเมริกา Starbucks ออกมาส่งสัญญาณว่าผลประกอบการของบริษัทจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากต้องปิดสาขามากกว่าครึ่งและปรับเวลาเปิดร้าน

ทั้งนี้ Starbucks เพิ่งรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2563 สิ้นสุด 29 ธันวาคม 2562 มีการเปิดสาขาใหม่ทั่วโลก 539 สาขา ทำให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 31,795 สาขา โดยมีรายได้ 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.19 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และมีกำไรสุทธิ 885.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 2.72 หมื่นล้านบาท ยอดขายของสาขาที่เปิดอย่างน้อย 13 เดือน เพิ่มขึ้น 5% นำโดยสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6% และ จีน เพิ่มขึ้น 3%

โดยจีนและสหรัฐฯ ถือเป็นสองประเทศที่มีความสำคัญมากที่สุดของเชนกาแฟเงือกเขียว แน่นอนว่าการแพร่ระบาดในครั้งนี้จะทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า Starbucks สามารถรักษาการเติบโตได้หรือไม่ แม้เบื้องต้นเชนกาแฟที่ใหญ่สุดของโลกยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไร แต่ยอดขายจากจีนคิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้ในไตรมาสนี้

ด้าน เควิน จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวยืนยันว่า Starbucks จะรักษาคาดการณ์ผลประกอบการปี 2563 ไว้อยู่ แต่ยังไม่ได้รวมผลกระทบของการปิดสาขาในจีน แต่มองว่าจะกระทบแน่นอนกับผลประกอบการในไตรมาส 2 และช่วงเวลาที่เหลือของปี โดย Starbucks จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Starbucks ได้ประกาศปิดสาขาทั้งหมดในเมืองอู่ฮั่น อันเป็นศูนย์กลางของโรคระบาด ตลอดจนมณฑลหูเป่ย รวมๆ แล้วมีการปิดสาขาไปทั้งสิ้น 2,000 สาขา จากจำนวนทั้งหมด 4,292 สาขา ขณะเดียวกันบางแห่งที่เปิดอยู่ต้องปรับเมนูใหม่ เพราะวัตถุดิบบางอย่างไม่สามารถขนส่งได้

นอกจาก Starbucks แล้ว เชนร้านอาหารจานด่วนอย่าง McDonald’s, KFC และ Pizza Hut ก็ได้ปิดร้านทั้งหมดในเมืองอู่ฮั่น ขณะที่ Disneyland ได้ปิดสวนสนุกในเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง

Back to top button