ป.ป.ช.ชี้มูลอดีต “ดีดี”-ผบห. THAI ทุจริตซื้ออุปกรณ์ทำรัฐเสียหาย เมื่อปี 49

ป.ป.ช.ชี้มูลอดีต “ดีดี”-ผบห. THAI ทุจริตซื้ออุปกรณ์ทำรัฐเสียหาย เมื่อปี 49


นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.วันนี้มีมติชี้มูลความผิด 3 อดีตผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) กรณีจัดซื้ออุปกรณ์ห้องนักบินโดยเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนโดยมิชอบ ส่งผลให้รัฐได้รับความเสียหายเป็นเงิน 147 ล้านบาท

โดยที่ประชุม ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 20 ม.ค.63 พิจารณาผลสอบของอนุกรรมการไต่สวนที่มี พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง เป็นประธาน ซึ่งจากการไต่สวนข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค.49 กรมการขนส่งทางอากาศส่งข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 65 ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยในบริเวณส่วนของผู้ประจำหน้าที่ภาคอากาศ ให้แก่ THAI โดยระบุว่าจะต้องจัดให้มีวิธีการที่สามารถตรวจตราพื้นที่ด้านนอกประตูที่แบ่งเป็นส่วนของผู้ประจำหน้าที่ภาคอากาศโดยรอบทั้งหมดได้จากบริเวณปฏิบัติงานของนักบินแต่ละคน เพื่อพิสูจน์ทราบบุคคลที่ขอเข้าและเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมที่น่าสงสัยหรือเหตุที่อาจเป็นภัยอันตราย

ต่อมาที่ประชุมฝ่ายบริหารงานนโยบาย THAI เมื่อวันที่ 22 ส.ค.49 ได้รับทราบและเห็นว่าจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับในส่วนของอุปกรณ์ในห้องนักบินเพื่อรองรับข้อมูลปฏิบัติการบินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และระบบกล้องวงจรปิดสำหรับตรวจสอบบริเวณห้องนักบิน (Electronic Flight Bag/Cockpit Door Surveillance System, EFB/CDSS) จึงเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร THAI เพื่อพิจารณา จากนั้นคณะกรรมการบริหาร THAI ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ส.ค.49 อนุมัติในหลักการให้ฝ่ายปฏิบัติการ (DO) ไปดำเนินการจัดหาโครงการ EFB/CDSS โดยเร็ว

เรืออากาศโทณรุจ โกมลารชุน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายทดสอบและพัฒนาการบิน (OE) และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการภารกิจพิเศษฝ่ายปฏิบัติการ สังกัดฝ่ายปฏิบัติการบิน ระดับรองผู้อำนวยการใหญ่ จึงมีหนังสือถึงเรืออากาศเอกประสาท ขุนอินทร์ ขณะดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายปฏิบัติการ (DO) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เสนอแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากำหนดคุณสมบัติของระบบโครงการ EFB/CDSS

ส่วนคณะกรรมการจัดซื้อและคณะกรรมการตรวจรับให้ฝ่ายช่าง (DT) เป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากโครงการ EFB/CDSS มีการถ่ายโอนงบประมาณให้ฝ่ายช่าง (DT) เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อและติดตั้งระบบตามขั้นตอนและระเบียบของฝ่ายช่าง (DT) และเมื่อวันที่ 24 พ.ย.49 เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี ขณะดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้ลงนามอนุมัติแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากำหนดคุณสมบัติของระบบ EFB/CDSS

ในขณะที่ฝ่ายช่าง (DT) ยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อโดยแต่งตั้งคณะกรรมการจัดซื้อ และยังไม่มีการอนุมัติจัดซื้อจากคณะกรรมการบริหาร THAI ปรากฏว่าในวันที่ 21 ก.พ.50 เรืออากาศโทณรุจ กลับมีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ถึง บริษัท Global Airworks Inc. แจ้งว่าได้รับการคัดเลือก ให้เตรียมทำสัญญา และให้เริ่มดำเนินการโดยเร็ว

ต่อมา เรืออากาศโทณรุจ มีหนังสือที่ลงวันที่ 21 พ.ค.50 ถึงเรืออากาศเอกประสาท ในฐานะผู้บังคับบัญชา ให้พิจารณาเสนอให้เรืออากาศโทอภินันทน์ ลงนามในสัญญาซื้อขายกับบริษัท Global Airworks Inc. ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีการระบุให้เป็นการจัดซื้อโดยวิธีใด ได้ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดซื้อ และได้รับการอนุมัติจัดซื้อจากผู้มีอำนาจจัดซื้อตามระเบียบบริษัทฯ ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2546 หรือไม่ อย่างไร แต่เรืออากาศเอกประสาท กลับเห็นชอบ

และเรืออากาศโทอภินันทน์ ลงนามในสัญญา Purchase Terms Agreement PTA 070225-08 MAY 17, 2007 เมื่อวันที่ 22 พ.ค.50 และเมื่อมีการทำสัญญาซื้อ EFB/CDSS กับบริษัท Global Airworks Inc. แล้ว บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจรับและชำระเงินให้แก่บริษัท Global Airworks Inc. ไปจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 147,395,028.586 บาท แต่ปรากฏว่าบริษัท Global Airworks Inc. ไม่สามารถดำเนินการตามสัญญาได้ บริษัทฯ จึงบอกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.51

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่าการกระทำของเรืออากาศโทอภินันท์ และเรืออากาศโทณรุจ มีมูลเป็นความผิดอาญา ฐานร่วมกันเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น และฐานร่วมกันเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่บริษัท ฐานจงใจทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ฐานฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทอย่างร้ายแรง ตามระเบียบบริษัทว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2537 ข้อ 13.2.1 ข้อ 13.2.2 ข้อ 13.2.3

สำหรับการกระทำของเรืออากาศเอกประสาท มีมูลเป็นความผิดอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุน

 

 

Back to top button