สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 มี.ค. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 มี.ค. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) ขานรับข่าวทำเนียบขาวและวุฒิสภาสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่ามาตรการดังกล่าวซึ่งมีวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์จะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,200.55 จุด เพิ่มขึ้น 495.64 จุด หรือ +2.39% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,475.56 จุด เพิ่มขึ้น 28.23 จุด หรือ +1.15% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,384.29 จุด ลดลง 33.56 จุด หรือ -0.45%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้น หลังขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้การแพร่ะระบาดในยุโรปจะยังไม่มีสัญญาณที่ชะลอตัวลงแต่อย่างใด

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3.09% ปิดที่ 313.38 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,432.30 จุด เพิ่มขึ้น 189.60 จุด หรือ +4.47%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,874.26 จุด เพิ่มขึ้น 173.69 จุด หรือ +1.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,688.20 จุด เพิ่มขึ้น 242.19 จุด หรือ +4.45%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ และการดำเนินการของบริษัทต่างๆ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเงินที่เกิดจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,688.20 จุด เพิ่มขึ้น 242.19 จุด หรือ +4.45%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) ขานรับปัจจัยบวกจากการที่ทำเนียบขาวและวุฒิสภาสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 24.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 27.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 27.4 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 1,633.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 61.6 เซนต์ หรือ 4.32% ปิดที่ 14.873 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 43.8 ดอลลาร์ หรือ 6.24% ปิดที่ 745.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ทะยานขึ้น 460.70 ดอลลาร์ หรือ 25.8% ปิดที่ 2,247.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากมีรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุระดับ 60,000 รายแล้ว

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.36 เยน จากระดับ 111.46 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9779 ฟรังก์ จากระดับ 0.9831 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4204 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4492 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0867 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0757 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1870 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1748 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.5960 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.5912 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button