ไมเคิล มานเฟรด สไตเบิล

บริษัท แรบบิท แคร์ โบรคเกอร์ จำกัด ผู้นำแพลตฟอร์มเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการเงินแบบตรงถึงผู้บริโภค (Direct-to-Consumer) ของประเทศไทยในเครือกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ประกาศเข้าซื้อกิจการ GluayGluay.com ซึ่งเป็นหนึ่งในนายหน้าประกันภัยรถยนต์ออนไลน์รายแรกๆ ของประเทศ เสริมความแข็งแกร่งในบทบาทผู้นำการรวมตลาดนายหน้าประกันภัยที่กระจัดกระจายในไทย สำหรับการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยขยายฐานลูกค้าและเสริมความสามารถของแรบบิท แคร์ ในการส่งมอบประสบการณ์การใช้บริการประกันภัยที่ทันสมัย รวดเร็ว และง่ายยิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภค โดย GluayGluay.com มีชื่อเสียงในฐานะผู้บุกเบิกการจำหน่ายประกันภัยรถยนต์ผ่านช่องทางดิจิทัล และได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มผู้บริโภคที่เน้นการใช้บริการออนไลน์ ด้วยการผสานฐานลูกค้าที่มีความภักดีเข้าสู่แพลตฟอร์ม CareOS ของแรบบิท แคร์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประกันภัยได้อย่างรวดเร็วและบริการที่ตรงใจ แรบบิท แคร์ สามารถยกระดับประสิทธิภาพการบริการและเสริมสร้างความผูกพันกับฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้ แรบบิท แคร์ เข้าถึงฐานข้อมูลลูกค้าที่มีการสอบถามเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์กว่า 100,000 รายชื่อ ซึ่งสะสมโดย GluayGluay.com ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา เสริมศักยภาพในการสร้างโอกาสทางธุรกิจและการมีส่วนร่วมกับลูกค้าในอนาคต นายไมเคิล มานเฟรด สไตเบิล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แรบบิท แคร์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมความเป็นผู้นำของ แรบบิท แคร์ ในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมนายหน้าประกันภัยในประเทศไทย เรามุ่งมั่นในการขยายนวัตกรรม เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค และส่งมอบประสบการณ์การใช้บริการที่รวดเร็ว ง่าย และโปร่งใสมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกำหนดอนาคตที่ชาญฉลาด ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง และขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล” ลูกค้าเดิมของ GluayGluay.com จะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงัก พร้อมเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลายขึ้น ระบบจัดการกรมธรรม์ที่ใช้งานง่าย และการบริการแบบส่วนตัวจากทีมเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับใบอนุญาตกว่า 400 คน ผ่านทั้งช่องทางโทรศัพท์และออนไลน์ ตลาดนายหน้าประกันภัยในประเทศไทยยังคงมีลักษณะกระจัดกระจาย โดยมีนายหน้าที่ได้รับใบอนุญาตประมาณ 800 ราย ขณะที่บริษัทขนาดเล็กหลายแห่งต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการสืบทอดธุรกิจ ข้อกำหนดด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ที่เข้มงวดขึ้น และต้นทุนการปรับตัวด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน พฤติกรรมผู้บริโภคก็เร่งเปลี่ยนผ่านสู่ช่องทางออนไลน์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประกันภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ โดยตามรายงาน e-Conomy SEA ปี 2567 โดย Google, Temasek และ Bain & Company ตลาดประกันภัยดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะเติบโตจากประมาณ 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567 เป็น 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2573 หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ราว 20% สำหรับการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งที่สามของ แรบบิท แคร์ ต่อจากการควบรวมกิจการของ Asia Direct Broker ในปี 2564 และธุรกิจนายหน้าประกันภัยของ EasyCompare ในปี 2566 ตอกย้ำบทบาทของแรบบิท แคร์ ในการผลักดันการรวมตลาดนายหน้าประกันภัยในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ แรบบิท แคร์ จะเดินหน้ามองหาโอกาสในการควบรวมกิจการเชิงกลยุทธ์เพิ่มเติม เพื่อเร่งการพลิกโฉมอุตสาหกรรมและส่งมอบคุณค่าให้แก่ผู้บริโภคในยุคใหม่ต่อไป