“ส.ส่งออกกล้วยไม้” วอนรัฐ สั่ง “พักหนี้-ปล่อยกู้ดบ.ต่ำ” เสริมสภาพคล่อง สู้ “โควิด” ด่วน!

"สมาคมผู้ส่งออกดอกกล้วยไม้ไทย" วอนรัฐ สั่ง "พักหนี้-ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ" เสริมสภาพคล่องธุรกิจ ฝ่าวิกฤต "โควิด-19" ด่วน!


นายเจตน์ มีญาณเยี่ยม อุปนายกสมาคมผู้ส่งออกดอกกล้วยไม้ไทย เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกันของผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจ เห็นตรงกันว่า ภายในระยะเวลา 1 เดือนข้างหน้านี้ อยากให้ภาครัฐเร่งออกมาตรการเยียวยาให้ความช่วยเหลือโดยด่วน

โดยทางสมาคมมีข้อเสนอแนะเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยส่วนตัวได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไว้ก่อนหน้า เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา และเห็นว่าขณะนี้มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ต้องได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือ ดังนี้

1. ขอให้ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารของรัฐทั้งหมด หยุดพักชำระหนี้ชั่วคราวแก่บริษัท และผู้ส่งออกดอกกล้วยไม้ และหากมีการพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ ให้ยกเว้นการนำเงื่อนไขต่างๆ มาเป็นเหตุในการปฏิเสธการพิจารณาการขอกู้ใหม่ และให้บรรษัทประกันสินเชื่อขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้ โดยให้ระยะเวลาการผ่อนชำระคืนไม่ต่ำกว่า 5 ปี

2. ขออนุมัติเงินกู้วงเงินดอกเบี้ยต่ำ แบบไม่มีเงื่อนไขเป็นกรณีพิเศษ ให้กับบริษัทผู้ส่งออกกลัวยไม้ และเกษตรกรผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ทั้งหมด วงเงินรายละไม่เกิน 20 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือกรณีพิเศษช่วงวิกฤตการณ์ส่งออกไม่ได้

3. ให้ยกเลิกหรือลดการนำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของเจ้าของกิจการ/บริษัท/ผู้ส่งออกกล้วยไม้ จากร้อยละ 4 ให้เหลือร้อยละ 1

4. ลดการจัดเก็บภาษีรายได้นิติบุคคลของบริษัท/ผู้ส่งออกดอกกล้วยไม้ไทยจากเดิมร้อยละ 20 เหลือเป็นร้อยละ 15 ภายในระยะเวลา 2-5 ปี จากนั้นจึงเข้าสู่ภาวะปกติตามเดิม

5. ลดการจัดเก็บค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ในช่วงวิกฤต ลงร้อยละ 50 ของการจ่ายจริง เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

6. ขอการสนับสนุนช่วยเหลือค่าแรงงานร้อยะ 50 ให้กับบริษัท/ผู้ส่งออกดอกกล้วยไม้ ที่มีประวัติการขึ้นทะเบียนนำส่งเงินกองทุนประกันสังคม ทั้งนี้เพื่อที่การรักษาแรงงานไม่ให้เกิดการเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนา ซึ่งเป็นการลดการแพร่ระบาด และรักษาเศรษฐกิจให้คงอยู่ได้ในอนาคต

7. เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว ในการรองรับการเติบโตของธุรกิจการส่งออกดอกกล้วยไม้ไทย จึงเห็นควรให้ภาครัฐพิจารณา ยกเลิก แก้ไขปรับปรุงมาตรการ ข้อกำหนด หรือข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อส่งเสริมการส่งออกดอกกล้วยไม้ทั้งระบบให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

และ 8. ขอยกเลิกหรือลบข้อมูลเครดิตบูโรให้แก่เกษตรกรผู้ปลูก และบริษัทผู้ส่งออกดอกกล้วยไม้ไทยทุกราย (ถ้ามี)

นายเจตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ซึ่งทวีความรุนแรงและยาวนาน อีกทั้งยังไม่ปรากฏสัญญาณว่าการแพร่ระบาดจะมีแนวโน้มสิ้นสุดได้เมื่อไหร่ ส่งผลให้ธุรกิจการส่งออกดอกกล้วยไม้ รวมถึงกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิต และผู้ส่งออก ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในวงจรธุรกิจกล้วยไม้ทุกระดับ เริ่มอ่อนกำลัง ขาดสภาพคล่องที่จะสามารถแบกรับภาระที่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้

ดังนั้น จึงอยากร้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐในการเยียวยาธุรกิจนี้ไม่ให้ล้ม ขณะเดียวกันเป็นการเตรียมตัวเพื่อพร้อมจะกลับคืนธุรกิจให้ประเทศไทยยังคงครองความเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจนี้ให้ได้เมื่อถึงวันที่สถานการณ์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

ทั้งนี้ หากได้ความช่วยเหลือจากภาครัฐตามที่ได้เสนอนี้ เชื่อว่าการพลิกฟื้นของธุรกิจการส่งออกดอกกล้วยไม้ จะคืนกลับมาได้โดยเร็วภายหลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 ได้ผ่านพ้น และสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกดอกกล้วยไม้ไทยเป็นอันดับ 1 ของโลก มีมูลค่าการส่งออกกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี โดยประเทศนำเข้าหลัก ได้แก่ จีน ยุโรป โดยเฉพาะอิตาลี, สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นประเทศทีมีการแพร่กระจาย และการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวนมาก

Back to top button