
เช็กเลย! “กิจการ-ร้านค้า” คลายล็อกดาวน์ ทยอยเปิดบริการ 3 พ.ค.นี้
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ …
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน(พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ฉบับที่ 6 ประกาศให้ กิจการและกิจกรรม เปิดหรือให้บริการได้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ประกอบด้วย
1. กิจกรรมด้านเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิต เช่น การจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม ในโรงแรม ท่าอากาศยานสถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงพยาบาล ร้านอาหาร หรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย แต่ไม่รวมสถานบริการผับบาร์ และห้ามจำหน่าย และบริโภคสุราภายในร้าน
สำหรับร้านอาหาร หรือ เครื่องดื่มซึ่งจำหน่ายสุรา ให้เปิดได้แต่ห้ามการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
2. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา สิ่งเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ร้านค้าขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธนาคาร ที่ทำการหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ส่วนแผนกร้านอาหารให้เปิดได้เฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่น
3. ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งขนาดย่อม ร้านค้าปลีก ค้าส่งชุมชน ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด เปิดได้โดยต้องควบคุมทางเจ้าออก จัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้ให้และผู้ใช้บริการ เว้นระยะห่างในการเลือกซื้อสินค้าและชำระค่าบริการ
4. ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สำหรับบุรุษและสตรี ให้เปิดได้เฉพาะกิจกรรม สระ ตัด ซอยผม แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน
5. กิจกรรมด้านการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ ประกอบด้วย โรงพยาบาล คลินิก สถานทันตกรรม หรือสถานพยาบาลทุกประเภท ที่จัดตั้งโดยชอบตามกฎหมาย สามารถให้บริการได้
6. สนามกอล์ฟ สนามฝึกซ้อม เปิดได้แต่ต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุม หรือเปิดการแข่งขัน
7. สนามกีฬา เฉพาะกลางแจ้งและตามกติกาสากล ผู้เล่นต้องมีระยะห่าง ไม่คลุกคลีกัน เช่น เทนนิส ขี่ม้า ยิงปืน ยิงธนูและต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุม หรือเป็นการแข่งขัน
8. สวนสาธารณะ ลาน พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา ให้เปิดได้เฉพาะ ที่โล่งแจ้งเพื่อการเดิน วิ่ง ขี่หรือปั่นจักรยาน หรือออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นส่วนบุคคล และ
9. สถานที่ให้บริการดูแลรักษาสัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือฝากสัตว์
โดยเจ้าของกิจการ กิจกรรมทุกประเภท ต้องรับผิดชอบดูแลความสะอาดสถานที่ เว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัน ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ให้ และผู้ใช้บริการ โดยพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจ และให้คำแนะนำตักเตือนห้ามปรามได้ตลอดเวลา หากพบว่ามีการฝ่าฝืน หรือเป็นอันตรายต่อการป้องกันการแพร่โรค รวมถึงสามารถเสนอให้ผู็มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วนโรคติดต่อสามาถสั่งปิดสถานที่นั้นได้เฉพาะราย