“ศบค.” เปิดฉบับร่าง คลายล็อก เฟส 4 ร้านอาหารขายเหล้า นั่งดื่มได้ ผับบาร์-อาบอบนวด รอก่อน

“โฆษก ศบค.” เปิดฉบับร่าง คลายล็อก เฟส 4 ร้านอาหารขายเหล้า นั่งดื่มได้ ผับ-บาร์-อาบอบนวด รอก่อน


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า คณะกรรมการชุดเฉพาะกิจพิจารณากิจการ/กิจกรรมที่จะผ่อนคลายให้มีการเปิดดำเนินการในระยะที่ 4 ที่มีการประชุมในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.63) ได้มีการยกร่างกิจการ/กิจกรรมเป็นกลุ่มต่างๆ ซึ่งจะให้ ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธานพิจารณาในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่าจะเริ่มให้เปิดได้เร็วที่สุดคือวันที่ 15 มิ.ย.นี้

สำหรับร่างมาตรการคลายล็อกระยะที่ 4 แบ่งเป็น 3 กลุ่มกิจการ/กิจกรรม คือ

1.การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา คือ โรงเรียนนานาชาติ และสถาบันกวดวิชา นอกเหนือจากการเปิดเทอมของโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) วันที่ 1 ก.ค. ตามปกติ นอกจากนี้ ให้หน่วยงานราชการ-กำกับของรัฐ อบรมสัมมนาในหลักสูตรฝึกอบรมที่หน่วยงานจัดขึ้น แต่ต้องดูแลนักเรียน มีระบบพื้นที่พอสมควร ให้นั่งเรียนห่างกัน เป็นต้น

2.กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต แบ่งเป็น

ก. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป ไม่รวมสถานบริการ ผับบาร์ คาราโอเกะ ซึ่งจะต้องเป็นไปด้วยความมีระเบียบ งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น ไม่มีการเชียร์เบียร์ โดยมาตรการหลัก 5+1 คือ อยู่ห่าง ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิว ไม่แออัด และต้องลงทะเบียนไทยชนะ ส่วนมาตรการเสริม คือ ไม่ให้เสียงดัง บุฟเฟ่ต์งดตักอาหารส่วนกลางด้วยตัวเอง เป็นต้น โดยจะมีคู่มือปฏิบัติออกมา

ข.สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยหรือศูนย์เด็กเล็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ ที่เคยอนุญาตให้เฉพาะพักค้างคืน ตอนนี้ให้เป็นแบบไปกลับได้ อย่างไรก็ตาม เด็กควรจะต้องมีพื้นที่ 2 ตารางเมตร/คน ผู้ดูแลต้องผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาเด็กปฐมวัยและการป้องกันควบคุมโรคด้วย

ค.ห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า สถานที่จัดนิทรรศการ โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สถานที่ราชการเพื่อจัดประชุม อบรม สัมมนา โดยการประชุมอบรมสัมมนา คิดเกณฑ์ 4 ตารางเมตร/คน, จัดงานเลี้ยง อีเว้นท์ เปิดตัวสินค้า ประกวด แข่งขันกีฬาที่ไม่มีคนดู แต่ต้องมีระยะห่าง 1 เมตร และงานแสดงดนตรี คอนเสิร์ต ต้องลดความหนาแน่น ต้องมีระเบียบ เกณฑ์คือ 5 ตารางเมตร/คน ต้องระวังการกระจายละอองฝอย งดกิจกรรมส่งเสิมการขายที่จะไปอยู่ใกล้ชิดกัน การจัดคอนเสิร์ต 2 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง

ง. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เช่น ท้องฟ้าจำลอง

จ. การขนส่งสาธารณะ อาจให้นั่งติดกัน 2 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง โดยจำกัดไม่เกิน 70% ของความจุผู้โดยสารตามมาตรฐาน

3.กิจกรรมด้านออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ และสันทนาการ แบ่งเป็น

ก.กองถ่ายขนาดใหญ่รวมทุกแผนกไม่เกิน 150 คน มีผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คน โดยแนะนำให้หน้ากากอนามัยแทนการใส่ Face Shield อย่างเดียว

ข. สถานประกอบการด้านสุขภาพ สปา ออนเซ็น อบตัว สมุนไพร อบไอน้ำแบบรวม แต่ยังยกเว้นกิจการอาบอบนวด และจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการต่อรอบ คิดตามเกณฑ์ 5 ตารางเมตร/คน

ค. สวนสุนก สนามเด็กเล่น สวนน้ำ สระว่ายน้ำสาธารณะ ต้องมีไลฟ์การ์ดคอยดูแลให้คำแนะนำ แต่ยังยกเว้น บ้านบอล เพราะสารคัดหลั่งจะไปอยู่กับลูกบอล ทำความสะอาดยาก และเป็นที่หมักหมมของเชื้อโรค ส่วนสวนน้ำและสระว่ายน้ำ คิดเกณฑ์ 8 ตารางเมตร/คน

ง. สนามกีฬาประเภทกลางแจ้ง โรงเรียนศิลปะการต่อสู้ โรงยิม และสถานที่ออกกำลังกายทุกประเภทกีฬาสากล เพื่อออกกำลังกาย ฝึกซ้อม การเรียนการสอน ทำได้หมด โดยจัดแข่งขันได้แต่ต้องไม่มีผู้ชม อาจจะถ่ายทอดสดได้ และต้องไม่มีกิจกรรมอื่นมาร่วมด้วย เช่น การส่งเสริมการขายต่างๆ

จ. สวนสาธารณะ ลานกีฬา สามารถจัดกิจกรรมรวมกลุ่มได้ เช่น เต้นแอโรบิค รวมกลุ่ม คิดเกณฑ์ 5 ตารางเมตร/คน รวมกันไม่เกิน 50 คน

ฉ. ตู้เกมส์และเครื่องเล่นหยอดเหรียญใน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงมหรสพ สวนสนุก ยกเว้นร้านเกมส์ภายนอก และจำกัดเวลาครั้งละไม่เกิน 2 ชั่วโมง

“เน้นย้ำว่ารายละเอียดตรงนี้เป็นเพียงฉบับร่าง อาจจะมีการปรับเปลี่ยน อาจจะมีการยกเลิก หรือเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ศบค.ชุดใหญ่ที่จะมีการประชุมกันในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มิ.ย. แต่เบื้องต้นมีประมาณนี้ โดยท่านอาจจะช่วยกันจำแนกแยกแยะวิเคราะห์หรือช่วยกันออกแบบ ถ้าอยากมีกิจการกิจกรรมต่างๆ เหมือนก่อนที่จะมีโควิด เราจะต้องการทุกอย่างอย่างนั้นไม่ได้ ชีวิตวิถีใหม่ที่ว่าจะต้องเข้ามาตรงนี้ ต้องคำนึงถึงว่าถ้าเราไปกิจกรรมนี้หากติดเชื้อขึ้นมาจะจัดการตัวเองและคนอื่นๆได้อย่างไร และทำอย่างไรให้ปลอดเชื้อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เศรษฐกิจต่างๆ หมุนเวียนไปได้ นี่คือสิ่งที่ ศบค.และคณะทั้งหลายพยายามทำให้ได้มากที่สุด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ส่วนเหตุผลที่ยังไม่ผ่อนปรนให้เปิดผับบาร์ คาราโอเกะ นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า เพราะสถานประกอบการดังกล่าวจัดกลุ่มไว้ว่าเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงสูง จากที่เคยมีรายงานก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อแบบเป็นกลุ่มก้อน เช่น กรณีสถานบริการในทองหล่อ อีกทั้งกิจการดังกล่าวถือว่ามีผลผลักดันเศรษฐกิจไม่มากเท่ากิจกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะร้านอาหาร

อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 น่าจะอยู่ในช่วงกลาง มิ.ย.ถึงสิ้นเดือนมิ.ย. โดยคาดว่าเร็วสุดอาจจะเป็นวันที่ 15 มิ.ย. ก็จะเข้าสู่ระยะที่ 4 เต็มที่

Back to top button