PRINC-BH เลื่อนแถลงเปิดตัว “ศูนย์แพทย์เฉพาะทาง” ไม่มีกำหนด

PRINC-BH เลื่อนแถลงเปิดตัว “ศูนย์แพทย์เฉพาะทาง” ไม่มีกำหนด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)  หรือ BH และ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC  แจ้งเลื่อนแถลงข่าวผนึกความร่วมมือตั้งศูนย์มะเร็งภาคอีสาน-เหนือตอนล่าง ออกไปแบบไม่มีกำหนดจากเดิมจะมีการแถลงในวันนี้ (30 พ.ย.2563)

 

อนึ่งก่อนหน้านี้ นายสาธิต วิทยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ PRINC และเจ้าของธุรกิจโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท BH ล็อตที่ 1 จำนวน 90 ล้นหุ้นในนามส่วนตัวจากบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ที่ราคาหุ้นละ 103 บาท ส่วนล็อตที่ 2 จำนวน 90 ล้านหุ้น คาดจะซื้อขายแล้วเสร็จในเดือนธ.ค.นี้

โดยความร่วมมือทางธุรกิจของ PRINC กับทาง BH เป็นไปตามแผนก่อนหน้านี้ โดยที่ผ่านมามีการตั้งศูนย์ความเป็นเลิศรักษาโรคเฉพาะทางในด้านต่างๆ เช่น โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ที่เปิดศูนย์กระดูกสันหลัง และศูนย์ข้อเข่าและข้อสะโพง รองรับการขยายตัวผู้ใช้บริการในพื้นที่สมุทรปราการ

ทั้งนี้ ดร.สาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ผ่านทาง Kaohoon TV Online และสถานีวิทยุ Sport Radio FM 96 MHz ว่า การเข้าซื้อหุ้นบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH เป็นการซื้อในนามส่วนตัว แต่สำหรับ PRINC จะมีการทำงานร่วมกัน (synergy) กับ BH ในลำดับถัดไป เนื่องจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญระดับโลกจำนวนมาก แต่มีฐานลูกค้ากระจุกอยู่เพียงในเมือง ขณะที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ฯ มีเครือข่ายอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ จึงน่าจะมีการร่วมมือกันทางการแพทย์ได้ โดยแพทย์เฉพาะทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สามารถมาดูแลคนไข้ในต่างจังหวัดผ่านโรงพยาบาลในเครือพริ้นซ์ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Telemedicine) เพื่อช่วยให้รักษาผู้ป่วยได้ดีขึ้น

โดยการ synergy กันระหว่างบริษัทกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เบื้องต้นจะมีการไปเปิดคลินิกแพทย์เฉพาะทางบำรุงราษฎร์ในโรงพยาบาลพริ้นซ์สาขาต่างจังหวัด แต่คิดราคาแบบ PRINC ที่มีแพทย์ ระบบ คุณภาพของบำรุงราษฎร์ ทำให้ PRINC ได้ประโยชน์ด้วย

ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือข่ายที่เปิดดำเนินการแล้ว 10 แห่ง และอีกแห่งจะเปิดช่วงมี.ค. 2564 โดยแต่ละแห่งมีขนาดต่างกัน เช่น โรงพยาบาลพิษณุเวช จังหวัดพิษณุโลก มีขนาดใหญ่ ประมาณ 180 เตียง โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี และโรงพยาบาลพิษณุเวช อุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีขนาดเล็ก ประมาณ 60 เตียง

ขณะที่ก่อนหน้านี้บริษัทร่วมมือกับ Bumrungrad Health Network ตั้งศูนย์ความเป็นเลิศรักษาโรคเฉพาะทางในด้านต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ที่เปิดศูนย์กระดูกสันหลัง Absolute Spine Care และศูนย์ข้อเข่าและข้อสะโพก Joint Surgery Center ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี นอกจากนี้ที่ผ่านมา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มุ่งที่คนไทยมากขึ้น ไม่ได้เน้นเฉพาะชาวต่างประเทศ จึงคิดว่าน่าจะมีการ synergy กันได้ดี

สำหรับผลประกอบการปี 2562 มีการเจริญเติบโตทั้งโรงพยาบาลที่มีอยู่แล้วและโรงพยาบาลใหม่ แต่ปี 2563 มีสถานการณ์โควิด-19 รายได้ช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ลดลงประมาณ 30% หลังจากนั้นได้ฟื้นตัวกลับมาประมาณ 15% อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังโชคดีที่มีโรงพยาบาลใหม่เข้ามาเสริม ทำให้จำนวนคนไข้ในเครือไม่ได้ลดลง ดังนั้นทั้งปี 2563 ยังคงประคองตัวไปได้ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงแผนการขยายธุรกิจเหมือนเดิม คือเปิดโรงพยาบาลใหม่เฉลี่ยปีละ 3 แห่ง

สำหรับโรงพยาบาลพริ้นซ์ เป็นโรงพยาบาลเพื่อชุมชน สามารถสร้างงานให้ชุมชน อีกทั้งยังจะทำให้แพทย์และพยาบาลได้กลับบ้านในจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงในพื้นที่ขาดแคลน ซึ่งบำรุงราษฎร์มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญระดับโลก จะได้เห็นภาพการ synergy โดยที่ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารจัดการต่าง ๆ แต่จะทำในด้านการแพทย์ ที่จะไปรักษาในชุมชน ต่างจังหวัด โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย ดังนั้นบริษัทจะมีการลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยี เพื่อเข้าไปดูแลคนไข้ในราคาที่ไม่แพงในพื้นที่ต่างจังหวัดได้ ถือว่าเป็นโปรเจกต์ที่ท้าทาย ถือว่าเอาเทคโนโลยีมาเป็นตัวเชื่อม เพื่อสร้างการเจริญเติบโตให้กับบริษัทได้ดีและเร็วขึ้น

อนึ่งก่อนหน้านี้ ดร.สาธิต เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 พ.ย. 2563 ตนเองได้เข้าทำรายการบิ๊กล็อตซื้อหุ้น BH แล้วจำนวน 90.50 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 103 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 9,321.50 ล้านบาท จากบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS และสนใจหุ้น BH ส่วนที่เหลืออีก 90.21 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 11.34% คาดว่าจะดำเนินการภายในเดือน ธ.ค.นี้

Back to top button