เชียงใหม่ ขยายเวลาปิดสถานบันเทิงทุกแห่ง ถึง 31 ม.ค. หลังยอดติดเชื้อโควิด-กลุ่มเสี่ยงพุ่ง

เชียงใหม่ ขยายเวลาปิดสถานบริการทุกแห่ง ถึง 31 ม.ค. หลังยอดติดเชื้อโควิด-กลุ่มเสี่ยงพุ่ง


นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 11/2564 ได้มีคำสั่งให้ขยายเวลาการปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว

โดยให้ปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะ ทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ต่อไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือผู้ป่วยรวมทั้งผู้สัมผัสที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำมีจำนวนค่อนข้างมาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการตรวจหาเชื้อ และมาตรการป้องกันควบคุมโรคให้ได้อย่างทันท่วงที จากเดิมที่ให้ปิดเป็นระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 6-19 มกราคม 2564

ด้านนายทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด- 19 จังหวัดเชียงใหม่(ระลอกใหม่) ว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่ม 2 ราย เป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านของผู้ป่วยรายที่ 65 ที่มีการรายงานไปเมื่อวานนี้ มีรายละเอียด ดังนี้

ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 68 ของจังหวัดเชียงใหม่ หญิงไทย อายุ 50 ปี แม่บ้าน ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับรักษาตัวห้องแยกความดันลบโรงพยาบาลนครพิงค์ เบื้องต้น ผู้ป่วยให้ข้อมูลว่า เริ่มมีอาการป่วยเล็กน้อยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 แต่ไม่มีประวัติเสี่ยงสัมผัส จึงไม่ได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 และชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ตั้งแต่เริ่มป่วยพักรักษาตัวที่บ้านพักของตนเอง

ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 69 ของจังหวัดเชียงใหม่ ชายชาวไต้หวัน อายุ 67 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับรักษาตัวห้องแยกความดันลบโรงพยาบาลนครพิงค์ อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค

จากการสอบสวนโรคพบว่า ครอบครัวนี้มีกิจกรรมร่วมกัน ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 63 ขณะนี้ทางทีมสอบสวนโรคกำลังดำเนินการติดตามผู้สัมผัส และเร่งสอบสวนสรุปไทม์ไลน์ พร้อมทั้งค้นหาต้นตอของการติดเชื้อในกลุ่มผู้ป่วยทั้ง 3 รายนี้ หากได้ข้อสรุปจะได้นำเสนอต่อไป

สำหรับจ.เชียงใหม่มียอดผู้ป่วยสะสม 23 ราย (รักษา 22 ราย, กลับบ้าน 1 ราย) โดยแบ่งเป็น ผู้ที่เดินทางจากระยอง 1 ราย, ผู้เดินทางจากชลบุรี 2 ราย, การระบาดในร้านวอร์มอัพ 10 ราย, การระบาดในร้านริเวอร์ไซด์ 7 ราย, การระบาดในครอบครัวกลุ่มใหม่ 3 ราย

Back to top button