PJW บวกแรง 16% “นิวไฮ” รอบ 3 ปี 10 เดือน ลุ้นผลงานปี 64 โต รับยอดขายฟื้น– แผนลดต้นทุน

PJW บวกแรง 16% "นิวไฮ" รอบ 3 ปี 10 เดือน ลุ้นผลงานปี 64 โต รับยอดขายฟื้น– แผนลดต้นทุน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 3.02 บาท บวก 0.42 บาท หรือ 16.15% สูงสุดที่ระดับ 3.12 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 161.70 ล้านบาท

ด้าน นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร PJW เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2564 เติบโต 5-10% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,819.83 ล้านบาท เนื่องจากคาดทุกกลุ่มมีการเติบโต เป็นไปตามภาพรวมตลาดในปี 2564 ที่เริ่มฟื้นตัว

โดยประเทศไทย ในส่วนของบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยวคาดว่าจะมีการเติบโต และบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ก็จะเติบโตมากขึ้น หลังจากบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นในปี 2563 ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจไทยชะลอตัว จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลยอดสั่งซื้อลดลง

รวมทั้งชิ้นส่วนพลาสติกของอุตสาหกรรมยานยนต์ มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กลับมาผลิต ตามปกติแล้ว และบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค จะเติบโตตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2564 ที่คาดว่าจะดีกว่าในปี 2563

สำหรับในประเทศจีน คาดว่ายอดขายในปี 2564 จะเติบโตมากขึ้น เนื่องจากปี 2564 สามารถดำเนินการได้เต็มปี จากปี 2563 ยอดขายหายไป 2 เดือน คือ เดือนก.พ.-มี.ค. 2563 ทำให้มียอดขายเพียง 10 เดือนเท่านั้น รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจจีนปี 2564 ที่คาดว่าจะเติบโตกว่าปี 2563

“สัดส่วนยอดขายในจีน คิดเป็น 10% ของยอดขายรวมบริษัท โดยการเติบโตในจีนเป็นการเติบโตแบบ Organic ประมาณ 5-10% ถ้าจะเติบโตกว่านี้ต้องมีการสร้างโรงงานใหม่เพิ่มเติม ซึ่งใน 1-2 ปีจากนี้ ยังไม่มีแผนสร้างโรงงานใหม่ ต้องดูว่ามีลูกค้าใหม่เข้ามาหรือไม่” นายวิวรรธน์ กล่าว

นอกจากนี้ ราคาเม็ดพลาสติกในปี 2564 น่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2563 ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และดีมานด์มากกว่าซัพพลาย อย่างไรก็ตาม บริษัทมีโครงการลดต้นทุนต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนคงที่ต่ำลง ดังนั้นคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 20.5% จากปี 2563 อยู่ที่ 19.5%

ขณะเดียวกันในปี 2564 บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 150-170 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในประเทศจีนสำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงาน และการลงทุนในประเทศไทย สำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานเพื่อลดต้นทุน สายการผลิต และคลังสินค้า ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อให้เกิดยอดขาย

Back to top button