FSMART บวกแรง 11% นิวไฮรอบเกือบ 3 ปี รับแผนธุรกิจเด่น-ลุ้น H2 ยอดเติมเงินโตก้าวกระโดด

FSMART บวกแรง 11% โดย ณ เวลา 16.02 น. อยู่ที่ 10.20 บาท บวก 1.00 บาท นิวไฮรอบเกือบ 3 ปี รับแผนธุรกิจเด่น-ลุ้น H2 ยอดเติมเงินโตก้าวกระโดด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(10 มิ.ย.64)ราคาหุ้น บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART โดย ณ เวลา 16.02 น. อยู่ที่ 10.20 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 10.87% สูงสุดที่ 10.40 บาท ต่ำสุดที่ 9.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 207.58  ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบเกือบ 3 ปี โดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 10.40 บาท เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2561

โดยล่าสุด นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ FSMART เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทฯ จะเดินหน้าขยายธุรกิจในส่วนของการจัดจำหน่ายเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EVnet ในแบบ AC Normal Charge กระแสไฟสลับทั้งแบบ 1 หัวชาร์จ และ 2 หัวชาร์จ และรองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งยุโรปและเอเชีย ให้ครอบคลุมทั่วไทยมากยิ่งขึ้น

โดยมีแผนเพิ่มจุดติดตั้งและบริการผ่านโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งแนวราบ แนวสูง รวมทั้งขยายจุดติดตั้งและบริการในบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล เพื่อขยายฐานการให้บริการกลุ่มผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งรถยนต์อีวี และรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ให้เพิ่มมากขึ้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม FSMART รุกเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า “EV net” พร้อมพัฒนาแอป “BeCharger”

สำหรับผลงานไตรมาส 2/64 คาดยอดเติมเงินจะใกล้เคียงไตรมาส 1/64 เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 อย่างไรก็ตาม น่าจะเห็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดในครึ่งปีหลัง เนื่องจากไตรมาส 3/64 บริษัทมีแผนจับมือกับพันธมิตรรายใหม่ รวมถึงมีแผนการออกสินค้าใหม่  ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มตู้บุญเติม เป็น 135,000 ตู้ ในสิ้นปี 2564 หรือเพิ่มขึ้น 5,000 ตู้จากปี 2563 ที่มีอยู่ราว 130,000 ตู้ และตั้งเป้ายอดใช้บริการผ่านตู้บุญเติมรวมโต 15-20%

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 64 บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 500 ล้านบาท ในการวางแผนการตลาดให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเดิมที่ใช้บริการเติมเงินมือถือกว่า 90% จากลูกค้าทั้งหมด 20 ล้านคน หันมาใช้บริการที่มีความความหลากหลาย เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม ประกอบกับการวางแผนเพิ่มบริการถอนเงิน และเพิ่มความร่วมมือกับธนาคารอีก 1-2 แห่ง รวมทั้งเพิ่มฐานลูกค้าเพื่อรองรับ CLMV ให้มากขึ้นด้วย

บริษัทแบ่งแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ออกเป็น 3 ธุรกิจ คือ 1.ธุรกิจเดิมของตู้บุญเติม คือ บริการเติมเงิน และรับชำระเงินที่ยังเน้นการบริหารพื้นที่ และบริหารตู้ทุกตู้ให้สามารถทำกำไรได้ โดยการย้ายตู้ที่มีผู้ใช้บริการน้อยไปยังทำเลใหม่ ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มบริการใหม่ๆ ผ่านตู้ เช่น การขายประกัน ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และการเพิ่มบริการการต่อ พ.ร.บ.ทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ คาดว่าจะดำเนินการในไตรมาส 3/64 นี้

นอกจากนั้น จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้เห็นการเติบโตของการใช้บริการแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตมากขึ้น จากการ Work From Home และ Learn From Home รวมถึงบริการ E-Wallet ด้วย

2.ธุรกิจตัวแทนธนาคาร ทั้งการทำเรื่องฝากเงิน โอนเงิน และให้บริการสินเชื่อ

3.ธุรกิจใหม่คือการเข้าถือหุ้นกว่า 19.34% ในการขายสินค้าผ่านตู้อัตโนมัติผ่านแบรนด์ “เต่าบิน” คือตู้ชงเครื่องดื่มแบบสดกว่า 100 เมนู โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ให้สามารถใช้บริการเหมือนตู้บุญเติมด้วย ทั้งนี้มีการติดตั้งตู้ “เต่าบิน” ให้บริการแล้วกว่า 20 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในคอนโดและโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้สามารถสร้างยอดขายต่อเดือนที่ 45,000-50,000 บาท มียอดขายต่อวันประมาณ 50 แก้ว

ทั้งนี้ ในปี 64 บริษัทตั้งเป้าติดตั้งตู้ “เต่าบิน” ให้ถึง 5,000 จุด และวางเป้าหมายอีก 3 ปี หรือในปี 67 ให้สามารถติดตั้งได้ทั้งหมด 20,000 จุด ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ต่อปีที่ 6-7 พันล้านบาท ส่วนเครื่องดื่มผสมกัญชง ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาตจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้าน EV Charger ปัจจุบันสามารถติดตั้งตามคอนโดได้แล้วกว่า 10 ตัว คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่มากขึ้นในอนาคต

Back to top button