‘กทม.-สธ.’ ปัดซดเกาเหลา! ปมร้อนวัคซีนขาด ยันไม่ขัดแย้ง รอจัดสรรเพิ่ม

“กทม.-สธ.” ร่วมแถลง บ่มปัญหาความขัดแย้งการกระจายวัคซีน โดยผู้ว่า กทม. ยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความขัดแย้งใดๆ อีกทั้ง สธ.ยังส่งคนมาช่วยในการฉีดวัคซีนให้กับปชช.ในพื้นที่ กทม. พร้อมชี้ได้รับวัคซีนเมื่อไรจะดำเนินการฉีดให้ในวันรุ่งขึ้นทันที


ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 14 มิ.ย. 2564 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค., พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวขี้แจง หลังเกิดกรณีปัญหาความขัดแย้งการกระจายวัคซีนระหว่าง กทม. กับ กระทรวงสาธารณสุข ที่โทษกันไปมา และโยนมาที่ ศบค.

โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สธ. ดำเนินนโยบายตามที่รัฐบาลกำหนด ในการจัดหาวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 50 ล้านคน ภายในปี 2564 ซึ่งตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา มีการนำเข้าวัคซีนแล้วกว่า 8.1 ล้านโดส ปัจจุบันมีการฉีดไปแล้วกว่า 6 ล้านโดส โดยพื้นที่ กทม.ได้รับการฉีดวัคซีนมากที่สุด ซึ่งการผลิตวัคซีน การตรวจสอบ มีมาตรฐานสากลที่ต้องคำนึงถึงทั้งในและต่างประเทศ การจัดสรรโดยคำนึงถึงหลายประการ ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2564 ได้จัดสรรวัคซีนให้กับคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป และที่มีโรค 7 กลุ่มเสี่ยง แต่วัคซีนโควิดเรายังมีใช้ในภาวะฉุกเฉินอยู่ ไม่สามารถสั่งมาสต๊อกเอาไว้ได้ บริษัทที่ทำสัญญาก็จะมีการทยอยส่งเป็นงวดๆ นอกจากนี้ยังฉีดให้กลุ่มอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นครู บุคลากรทางการศึกษา คนขับรถสาธารณะ แรงงานที่เป็นผู้ประกันตน ม.33 เพื่อให้ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต่อไปได้

ขณะที่เดือน มิ.ย. 2564 กระจายวัคซีนตามที่วางแผนไว้ คือ 2 งวด ครอบคลุม 2 สัปดาห์ มีทั้งสิ้น 3 ล้านโดส คือ วัคซีนของซิโนแวค 1 ล้านโดส และของแอสตราเซเนกา 2 ล้านโดส ได้จัดส่งไปยัง กทม.แล้ว 5 แสนโดส ประกอบด้วย แอสตราเซเนกา 3.5 แสนโดส วัคซีนของซิโนแวค 1.5 แสนโดส นอกจากนี้ของสำนักงานประกันสังคม ส่งไปอีก 3 แสนโดส ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ใน กทม.เป็นหลัก รวมถึงส่งไปยังมหาวิทยาลัย 11 แห่ง อีก 1.5 แสนโดส ซึ่งก็จะฉีดใน กทม.เป็นหลัก

สำหรับกลุ่มที่ลงทะเบียน “หมอพร้อม” ใน 76 จังหวัด จะมีการส่งวัคซีนไป 1.1 ล้านโดส จุดฉีดต่างๆ สำหรับองค์กรภาครัฐ กลุ่มทหาร ตำรวจ ที่เป็นบุคลากรด่านหน้า และครู อีก 1 แสนโดส นอกจากนี้ ยังจัดเตรียมวัคซีนไว้รองรับการระบาด ซึ่งขณะนี้มีอยู่ด้วยกันหลายพื้นที่ อาทิ เพชรบุรี เป็นต้น ซึ่งเป็นวัคซีนที่เรากระจายไปในงวดแรก

ส่วนงวดที่ 2 ตามกำหนดจะต้องมีการกระจายไปอย่างช้าที่สุด ในวันที่ 21 มิ.ย.-2 ก.ค. 2564 อีก 3.5 ล้านโดส เป็นวัคซีนของบริษัทซิโนแวค 2 ล้านโดส และของแอสตราเซเนกา 1.5 ล้านโดส ซึ่งวัคซีนก็เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในเดือน มิ.ย. 2564 ประมาณ 6 ล้านโดส

ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ชี้แจงว่า ตั้งแต่วันที่ 7-14 มิ.ย. 2564 ซึ่งเป็นงวดแรกของการฉีดวัคซีน ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งวัคซีนมาให้ กทม. 5 แสนโดส แยกเป็น 2 ชนิด คือ แอสตราเซเนกา 3.5 แสนโดส และซิโนแวค 2.5 แสนโดส ซึ่งซิโนแวคต้องใช้การฉีดเข็มที่สอง 126,000 โดส ที่เหลืออีก 2 แสนกว่าโดส มีใช้ในการควบคุมโรค หรือใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนของแอสตราเซเนกาที่ได้รับมา 3.5 แสนโดสนั้น กทม.จะได้แบ่งไปยังผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อม ซึ่งมีคนลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 7-14 มิ.ย. จำนวน 182,000 โดส และสำหรับเข็มที่สอง 52,000 โดส รวมถึงคนชรา และผู้ป่วยติดเตียงอีก 8,000 ราย เหลือสำรองไว้นิดหน่อย จากนั้นก็ให้โครงการไทยร่วมใจไป 100,000 โดส ซึ่งคาดหวังว่าวัคซีนจะได้มาก่อนวันที่ 14 มิ.ย.2564 แต่ปรากฏว่า อาจจะเกิดข้อขัดข้องทางเทคนิคของผู้ที่จะส่งให้ สธ. จึงยังไม่ได้รับวัคซีนตรงนี้ ทาง กทม.จึงได้แจ้งไปยังผู้ที่ลงวัคซีนระหว่างวันที่ 15-21 มิ.ย.2564 เลื่อนไปก่อน

โดย กทม.จะหยุดฉีด และจะกลับมาฉีดให้เร็วที่สุด เมื่อได้รับวัคซีน และผู้ที่เสียสิทธิ์ ยังไม่ได้ฉีด คนที่เสียสิทธิ์โดยอยู่ระหว่างนัดหมายวันที่ 15-20 มิ.ย.2564 จะได้เป็นกลุ่มต้นๆ ที่จะได้รับการฉีดก่อน โดยเน้นย้ำ ด้วยว่า สำหรับประชาชน ที่ลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม” และ “ไทยร่วมใจ” ที่ได้รับ SMS แจ้งว่า เลื่อนฉีดวัคซีน หากเราได้รับวัคซีนมาแล้ว ก็จะแจ้งให้ทราบทาง SMS เพื่อให้ลงทะเบียนนัดหมาย โดยไม่ต้องไปต่อคิวใหม่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่า กทม. ยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความขัดแย้งใดๆ อีกทั้ง สธ.ยังส่งคนมาช่วยในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ กทม. ก็ต้องขอขอบคุณไว้ด้วย และเมื่อได้รับวัคซีนเมื่อไรจะดำเนินการฉีดให้ในวันรุ่งขึ้นทันที

ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขา สมช. ยืนยันเช่นกัน ว่าไม่มีความขัดแย้งระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และกทม. ไม่มีวัคซีนการเมืองที่สร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับประขาขน เพราะการบริหารสถานการณ์โควิดมาตลอดระยะเวลา 14 เดือน มีความภาคภูมิใจอย่างมาก สิ่งใดที่ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ ก็ต้องขออภัย อย่างไรก็ตาม พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ หากมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมาก ทาง ศบค.สามารถจัดการได้ เพราะมีหน่วยบริการฉีดมากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ จึงมั่นใจจะฉีดให้กับประชาชนได้ทันอย่างแน่นอน ส่วนการจัดการวัคซีนโควิด-19 ในล็อตต่อไป จะต้องมีการหารือกันก่อนว่า จะจัดสรรให้กับผู้ที่ลงทะเบียน “หมอพร้อม” หรือผ่านกับทาง กทม.ก่อน

Back to top button