JTS ปิดพุ่ง 21% “ออลไทม์ไฮ” ลุ้นรับผลบวก JASTEL ดันกำไร Q2 โต

JTS ปิดพุ่ง 21% “ออลไทม์ไฮ” ลุ้นรับผลบวก JASTEL ดันกำไร Q2 โต โดยหุ้นปิดตลาดที่ระดับ 58.25 บาท บวก 10.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 190.74 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 58.25 บาท บวก 10.00 บาท หรือ 20.73% โดยทำจุดสูงสุดที่ 59.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 50.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 190.74 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 18 ก.ย.2549 คาดนักลงทุนเก็งกำไรได้รับประโยชน์รายได้-กำไรโต หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ JSTC ขายหุ้น JASTEL 99.99% ให้ JTS

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ที่บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS มีการประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจและการถือหุ้นของบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท เพื่อให้ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม (Telecom Network & Service Provider Business) ของบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด (JASTEL) อยู่ภายใต้การ บริหารจัดการและรวมดำเนินธุรกิจกับ JTS ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดหา ออกแบบ และวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม (System Integration Business)

โดยวิธีการขายหุ้นของ JASTEL ที่บริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (JSTC) ถืออยู่ทั้งหมด จำนวน 5,199,993 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วน 99.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ JASTEL ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 231 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,201.19 ล้านบาท ให้แก่ JTS ซึ่ง JTS จะรวมบัญชีของ JASTEL เข้ามาในงบไตรมาส 2/2564

ขณะเดียวกัน หลังจากปรับโครงสร้างดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้น JTS ปรับขึ้นมาโดยตลอด จากราคา 2.96 บาทเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2564 มาอยู่ที่ล่าสุด 27 บาท เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2564 บวกเพิ่มขึ้นมา 24.04 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นกว่า 812.16% นอกจากนี้ตั้งข้อสังเกตกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่อาจจะมีการดำเนินการอะไรหรือไม่ ส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หากมองในแง่ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการปรับโครงสร้างดังกล่าว จะทำให้การประกอบธุรกิจของ JTS มีประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น จากการประสานประโยชน์ทางธุรกิจระหว่างบริษัทในกลุ่ม ซึ่งจะทำให้เกิดการต่อยอดและส่งเสริมธุรกิจของกลุ่มบริษัทในภาพรวม ตลอดจนสร้างโอกาสให้ธุรกิจของ JTS และ JASTEL เติบโตมากยิ่งขึ้น จากการที่มีโอกาสให้บริการแก่ลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น โดยให้บริการ HyperScale Data Center ต่อยอดจากบริการเดิมที่ JASTEL ให้บริการอยู่ได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการให้บริการ Cloud Solution อย่างครบวงจร ทันความต้องการของตลาดในปัจจุบัน

ขณะที่ JTS ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศเป็นหลักหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1: Cash Balance ได้แก่ JTS มีผลวันที่ 13 ก.ค. 2564 สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค. 2564

Back to top button