III แรลลี่ยาว 5 วันพุ่ง 18% “ผบห.” ลั่นรายได้ปี 64 โตเกิน 30% รับไฮซีซั่นขนส่ง

III วิ่ง 5 วันราคาพุ่ง 18% แตะ 12.70 บาท จับตาผลงานปี 64 โตแกร่ง “ผบห.” เล็งอัพเป้ารายได้โตเกิน 30% มองธุรกิจสดใสรับไฮซีซั่น - แนวโน้มขนส่งเพิ่มขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ณ เวลา 10.48 น. อยู่ที่ระดับ 12.70 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.25% สูงสุดที่ระดับ 12.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 12.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 266.34 ล้านบาท 

โดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 นับตั้งแต่ราคาปิดที่ระดับ 10.80 บาท เมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.90 บาท หรือ 17.59%

ด้านนายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร III เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพิจารณาปรับเป้าหมายรายได้ปี 64 หลังจากผลประกอบการไตรมาส 2/64 ออกมาแล้ว จากเดิมที่คาดว่ารายได้จะเติบโต 30% โดยแนวโน้มการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาและจะเข้าสู่ไฮซีซั่นของการขนส่งโดยปกติ ขณะเดียวกันพันธมิตรสายการเดินเรือ อย่าง CK Line ได้เพิ่มจำนวนเรือมากขึ้น ซึ่งจะทำให้พื้นที่ขนส่งเพิ่มขึ้นอีกถึง 70% รวมทั้งยังได้ขยายเส้นทางการเดินเรือไปประเทศใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ค่าบริการขนส่งสินค้าทางทะเลยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการการที่มีมาก ในขณะเดียวกันยังประสบปัญหาเกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนที่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดทำให้มีการลดจำนวนพนักงานในพื้นที่การทำงานของท่าเรือ ซึ่งทำให้การนำสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ล่าช้าส่งผลให้การหมุนเวียนของตู้คอนเทนเนอร์ช้าลงกว่าเดิม

สำหรับการขนส่งสินค้าทางอากาศ แม้ว่าสายการบินไทยแอร์เอเชียประกาศหยุดกิจการชั่วคราวในเดือน ส.ค.นี้  เนื่องจากเป็นการหยุดให้บริการเฉพาะส่วนของผู้โดยสารในประเทศที่มีปริมาณการขนส่งสินค้าไม่มากนักอยู่แล้ว ซึ่งการขนส่งสินค้าเส้นทางต่างประเทศบริษัทไม่เคยมีการหยุดบินตั้งแต่การแพร่ระบาดระลอกแรก โดยบริษัทได้ให้บริการเช่าเหมาลำเพื่อขนส่งสินค้าโดยเฉพาะหรือ Charter Flight มาโดยตลาด และสายการบินได้เข้ามาให้ความสำคัญกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มีจำนวนมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทให้มีการขนส่งเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ มีความต้องการใช้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เข้ามาจากทั้งลูกค้ารายใหม่ๆ และลูกค้ารายเดิมที่ใช้บริการกับทางบริษัทอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าพัฒนาบริการโลจิสติกส์แบบควบคุมอุณหภูมิร่วมกับพันธมิตรจากประเทศสิงคโปร์เพื่อรองรับกลุ่มยาและวัคซีนที่ปัจจุบันมีความต้องการจำนวนมาก และในอนาคตยังมองว่าจะมีความต้องการอีกมาก

นอกจากนี้บริษัทเตรียมจะสรุปแผนการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และร่วมลงทุน (JV) ในช่วงที่เหลือของปี 64 นี้อีกอย่างน้อย 2 ดีลในรูปแบบการขนส่งระหว่างประเทศ และการขนส่งทางราง เป็นต้น

Back to top button