SMD บวก 3% โบรกฯอัพ “รายได้-กำไร” ปีนี้เพิ่ม หลังดีมานด์สูง ชูเป้า 17.50 บ.

SMD บวก 3% โบรกฯเพิ่มประมาณการปีนี้สู่ รายได้ 991 ลบ. และกำไร 132 ลบ. หลังกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้อาคารสูงกว่า 8 ชั้นต้องมีเครื่องกระตุกหัวในอัตโนมัติ, นำเข้าชุดตรวจโควิด-19, รับรู้รายได้จากศูนย์ตรวจการนอนหลับที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 17.50 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (20 ส.ค.2564) ราคาหุ้น บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD ณ เวลา 12.17 น. อยู่ที่ระดับ 16.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 2.56% โดยทำจุดสูงสุดที่ 16.10 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 15.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 73.04 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ส.ค.2564) โดยมีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น SMD ในส่วนของรายได้และผลประกอบการครึ่งหลังปี 2564 เนื่องจากได้แรงหนุนหลังกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้อาคารสูงกว่า 8 ชั้นต้องมีเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ หรือ AED รวมถึงมีการนำเข้าชุดตรวจ COVID-19แบบ Rapid test มาจำหน่ายซึ่งอยู่ระหว่างขออนุญาตจากภาครัฐ และรับรู้รายได้จากศูนย์ตรวจการนอนหลับที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เต็มปีจำนวน 4 เตียง

ขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวลงจาก 42% สู่ระดับ 41% เนื่องจากธุรกิจใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยด้านอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเทียบกับรายได้จะลดลงจาก 26% สู่ 24% จากมีการประหยัดจากขนาด ส่งผลให้ทางฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการรายได้และกำไรปี 2564 โดยรายได้ 747 ล้านบาทสู่ 991 ล้านบาท เติบโต 50% และกำไร 89 ล้านบาทสู่ 132 ล้านบาทเติบโต 71%

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อเนื่องต่อความต้องการใช้สินค้าของบริษัท อาทิสินค้าด้านเวชบำบัดวิกฤต และเครื่องช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับ ที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในไทย นอกจากนี้สังคมไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2565 ส่งผลให้มีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทมีแผนขยายศูนย์ตรวจการนอนหลับเพิ่มเติมไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ เพิ่มเติม ส่งผลให้ทางฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น โดยรายได้ 882 ล้านบาท สู่ 1,091 ล้านบาท เติบโต 10% และกำไร 101 ล้านบาท สู่ 142 ล้านบาท เติบโต 7%

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยได้ประเมินมูลค่าด้วยวิธี Prospective P/E Ratio โดยอ้างอิง P/E Ratio เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีพร้อมปรับลดด้วย 1S.D. (เนื่องจากในปัจจุบันเป็นการเติบโตที่สูงกว่าปกติจาก COVID-19) ของบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน อาทิ SMD TM และ Consumer Product- mai ที่ 26.50 เท่า (ไม่ใช้ P/E Ratio ของบริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED มาคำนวณเนื่องจากเป็น Outliner) ทั้งนี้ปรับใช้ราคาเหมาะสมเป็นปี 2565 โดยคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับปี 2565 ที่ 0.66 บาทต่อหุ้นได้ราคาเหมาะสมที่ 17.50 บาทต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจากเดิมที่10 บาท ซึ่งราคาเหมาะสมที่ประเมินได้สูงกว่าราคาปิดล่าสุดจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

 

Back to top button