TIPH พุ่งแรง 14% โบรกฯมองกองทุนสนใจ หลังปรับโฉมสู่โฮลดิ้ง-ขยายลงทุน

TIPH พุ่งแรง 14% โบรกฯมองกองทุนให้ความสนใจเข้า “เก็งกำไร” มากขึ้น หลังปรับโครงสร้างเป็นโฮพร้อมวางแผนขยายการลงทุน สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (20 ก.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ณ เวลา 14.51 น. อยู่ที่ระดับ 43.75 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท หรือ 14.38% โดยทำจุดสูงสุดที่ 45.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 39.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 676.31 ล้านบาท

นายวีรวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า TIPH ที่มีการเข้ามาเก็งกำไรกันมากน่าจะมาจาก Valueation ถูก และบริษัทปรับสถานะเป็นบริษัทโฮลดิ้งทำให้กองทุนสนใจมาก หลังจากเข้าไป Visit ซึ่งกองทุนไม่เคยลงทุนหุ้นตัวนี้ พอปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้งและมีแผนการลงทุนก็ได้รับการตอบรับดี

ด้านนสพ.รายงานเช้านี้ว่า ผู้บริหาร TIPH ระบุ การจะเป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) หรือ หุ้นยั่งยืน (Sustainability) ทิพยประกันภัย ถึงต้องปรับโมเดลธุรกิจ เพื่อจับกับโอกาสและความท้าทายในโลกใหม่ เป็นต้นว่าเรื่องของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทำให้มนุษย์เผชิญภัยใหญ่มากขึ้น ผู้คนเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงในสินทรัพย์ และคุณภาพชีวิต ในเรื่องนี้ทำให้ บริษัทตระหนักถึงโอกาสในการขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น แต่การจะเข้าถึงลูกค้าได้มากในต้นทุนที่ต่ำลงจะเดินธุรกิจในรูปแบบเดิมไม่ได้ เพราะกระบวนการออกกรมธรรม์แต่ละฉบับจะมีต้นทุนแฝง ตั้งแต่ค่ากระดาษ ค่านายหน้า ค่าส่งเอกสาร และสิ่งเหล่านี้สามารถควบคุมได้หากมีการนำระบบเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เหมาะสม แน่นอนว่าไม่ได้พูดถึงการลดจำนวนคน แต่เป็นการย้ายคนไปทำงานที่ทักษะสูงขึ้น

สำหรับการนำเทคโนโลยีมาใช้นอกจากลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจในระยะยาวแล้วยังเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วย และภายใต้โครงสร้าง TIPH ซึ่งมี บริษัท ทิพยประกันภัย อยู่ใต้หลังคา ก็จะยังแตกลูกออกมาดำเนินธุรกิจอินชัวร์เทค (Insurtech) ทำให้หน้าที่ในการพัฒนานวัตกรรมประกันภัย ทั้งสินค้า และบริการ

อย่างไรก็ดีการดำเนินธุรกิจ อินชัวร์เทค อย่างแท้จริงยังไม่มีในภาคอุตสาหกรรมประกันภัยไทย และเป็นตลาดที่ทิพยประกันภัยสนใจเข้าไปเล่น ดังนั้นที่ผ่านมาทิพยประกันภัยจึงสนใจเข้า ไปสนับสนุน สตาร์ทอัพ (Start Up) ที่เกี่ยวข้อง และไม่เกี่ยวข้องกับประกันภัย แต่สามารถนำมาพัฒนาและต่อยอดให้เกิดการเติบโตในกลุ่มธุรกิจ ภายใต้ TIPH

ทั้งนี้ อินชัวร์เทค จะเข้ามาตอบโจทย์พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ชอบหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการด้วยตัวเอง ดังนั้น TIP Digital จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ ขณะที่คนบางกลุ่มก็ชอบบริการแบบพรีเมียม (Premuim) ซึ่งทิพยประกันภัย จะตอบโจทย์ในรูปแบบดังกล่าว

ขณะเดียวกันภายใต้โครงสร้าง TIPH มี 3 กลุ่มธุรกิจที่สนใจลงทุน คือ ธุรกิจสำรวจภัยหรืออุบัติเหตุ ธุรกิจนายหน้าประกันภัย และกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ โดย 75% ยังคงเน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย ซึ่งมองว่าการปรับโมเดลในรูปแบบโฮลดิ้งส์จะทำให้นักลงทุนมองว่าบริษัทสามารถสร้างการเติบโต รวมถึงการสร้างความยั่งยืนให้กับกลุ่มธุรกิจทิพยได้

 

Back to top button