FORTH พุ่งกระฉูด 11% “ออล์ไทม์ไฮ” ทะลุเป้า 20 บ. ลุ้นปีนี้กำไรโตเด่นแตะ 730 ลบ.

FORTH พุ่งกระฉูด 11% “ออล์ไทม์ไฮ” ทะลุเป้า 20 บ. ลุ้นปีนี้กำไรโตเด่นแตะ 730 ลบ. โดย ณ เวลา 11:10 น. อยู่ที่ระดับ 20.10 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 ต.ค.2564)  ราคาหุ้นบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH ณ เวลา 11:10 น. อยู่ที่ระดับ 20.10 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 11% โดยทำจุดสูงสุดที่ 20.10 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 18.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 160.30 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯเมื่อวันที่ 8 ก.ย.2549

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.ย.2564) ว่า ธุรกิจตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ “เต่าบิน” เป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัทฯได้เริ่มทำในปี 2564 โดยมีจุดเด่นที่รสชาติและคุณภาพกาแฟสดที่บริษัทฯเลือกใช้ในราคาที่จับต้องได้ (เฉลี่ยราว 30 บาทต่อแก้ว) และมีเมนูให้เลือกหลากหลายกว่า 100+ เมนู ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจาก ผู้บริโภค ทั้งนี้ปัจจุบันมีจำนวนตู้ให้บริการราว 100 ตู้ และยอดขายเฉลี่ยต่อตู้อยู่ที่ 50 แก้วต่อวัน โดยบริษัทฯตั้งเป้ามีเต่าบินครบ 20,000 ตู้ในปี 2566

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยได้ประเมินการเริ่มสร้างกำไรอย่างมีนัยสำคัญที่ราว 200 ล้านบาทในปี 2565 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการ rollout ในอนาคตปลุกกำไรของบริษัทฯให้กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง หลังจากส่วนธุรกิจ Smart Services มีแนวโน้มทำรายได้ในลักษณะประคองตัวในระยะหลัง

นอกจากนี้รายได้ของ EMS business ปรับตัวขึ้นโดดเด่นในปี 2564 เพิ่มขึ้น 70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการได้งานลูกค้าในอุตสาหกรรม EV มูลค่าราว 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี แม้เป็นสัญญาปีต่อปี แต่จากคุณภาพงานและการส่งมอบที่ตรงเวลา ทางฝ่ายวิจัยจึงเชื่อมีโอกาสสูงที่บริษัทฯจะได้การ Recontract ต่อเนื่องและรักษาระดับรายได้ในอนาคต ในขณะที่ ES business มีแนวโน้มสดใสจาก Backlog ในปัจจุบันกว่า 2.30 พันล้านบาท (คาดกว่า 50% รับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง 2564

ส่วนรายได้ครึ่งปีแรก 2564 อยู่ที่ 1.20 พันล้านบาท) และ Potential Projects ที่จะเข้าประมูลอีกกว่า 9.30 พันล้านบาท หากสำเร็จจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปี 2565 เป็นต้นไป ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะรักษาระดับรายได้ที่ราว 2.40 พันล้านบาทต่อปีไว้ได้

อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 730 ล้านบาท และปี 2565 ที่ 969 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 49% CAGR ปี 2563 – 2565 Key Drivers ในปี 2564 มาจาก EMS business ซึ่งได้งานจากลูกค้า EV มูลค่าราว 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯทยอยรับรู้เข้ามา ในขณะที่ปี 2565 มาจาก Smart Services business ในส่วนของตู้เต่าบิน เริ่มสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่าบริษัทฯสามารถทำได้ตามเป้ามีจำนวนตู้ในระดับ 10,000 ตู้ได้ภายในสิ้นปี ดังกล่าว

อนึ่งยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 20.00 บาท อิงค่า PER ที่ 20 เท่า เทียบเท่า +0.5SD ย้อนหลัง 5 ปี ประเมินตลาดจะกลับมา ให้ Premium กับ Trading Band ของ FORTH หลังแนวโน้มผลประกอบการกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้งจากตู้เต้าบินซึ่งเข้ามาสร้าง S-Curve ใหม่ให้กับบริษัท Key catalyst คือความเร็วในการ rollout ตู้เต่าบิน ซึ่งจะ Speed Up การรับรู้รายได้

Back to top button