SABUY พุ่ง 6% หลังโชว์ Q3 กำไร 56 ลบ. เคาะลงทุน 6 ดีล ดันปีหน้าโตเด่น

SABUY พุ่ง 6% นักลงทุนเข้าเก็งกำไร หลังโชว์งบ Q3 กำไรกระฉูด 149% แตะ 56 ลบ. พร้อมประกาศขยายฐานธุรกิจเพิ่ม 6 ดีล มูลค่าไม่เกิน 1.58 พันลบ. ขยายพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อต่อยอดกับธุรกิจเดิม และเข้าสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตที่ดีเห็นจัดปีหน้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (9 พ.ย. 64) ราคาหุ้นของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY โดย ณ เวลา 11.40 น. อยู่ที่ระดับ 12.00 บาท บวก 0.70 บาท หรือบวกไป 6.19% โดยทำจุดสูงสุดที่ 12.10 บาท และต่ำสุดที่ 11.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 310.88 ล้านบาท

โดยรับปัจจัยบวกสืบเนื่องจาก SABUY รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 56.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.67% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 22.54 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถรักษาฐานรายได้จากการให้บริการผ่านตู้เติมเงินตลอดจนธุรกรรมต่าง ๆ ไว้ได้อย่างดี แม้ว่าจะถูกกระทบจากวิกฤตการณ์ COVID -19

รวมไปถึงรายได้จากการขายบริการระบบฟู๊ดคอร์ทของศูนย์อาหารยังคงเติบโตได้ดี มีผู้เช่าในระบบศูนย์อาหารเพิ่มขึ้น 14 ราย จากไตรมาสก่อนหน้านี้ และยังมีรายได้จากการพัฒนาระบบให้กับลูกค้าอีกด้วย ในส่วนรายได้จากการขายสินค้าจากตู้ขายสินค้าอัตโนมัติยังคงปรับตัวได้ดี โดยมีการขยายปริมาณการติดตั้งตู้อัตโนมัติและตู้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากการได้รับความนิยมและสะดวกสบายในการเข้าถึงทั้งในส่วนของชุมชน ร้านค้า โรงงาน และออฟฟิศ

อีกทั้งการที่ชิปป์สไมล์สามารถขยายสาขาได้อย่างก้าวกระโดดเป็น 4,040 สาขา ประกอบกับบริษัทฯ มีรายได้จากการรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทฯ ร่วมเข้ามาในไตรมาสนี้จากการลงทุนในบริษัท เอ.ที.พี. เฟรนด์ เซอร์วิส จำกัด (ชิปป์ สไมล์) และจากบริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน)

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 136.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.73% จากงวดเดียวกันของปีก่อนก่อนมีกำไรสุทธิ 70.26 ล้านบาท

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า SABUY รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 ที่ 56 ล้านบาท เติบโต 149% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และ 19% จากไตรมาสก่อนนั้น ดีกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาด 20% หนุนโดยรายได้ที่ดีกว่าคาด รวมทั้งประกาศดีลทางธุรกิจอีก 6 ดีล โดยประเมินกำไรส่วนเพิ่มจากดีลดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 200-250 ล้านบาท ในปี 2565 จากประมาณการกำไรเดิมที่ 300 ล้านบาท หรือมีอัพไซด์ 70-80% ซึ่งจะทำให้กำไรของ SABUY ในปี 2565 เติบโต 150-175% ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยอยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2564 มีมติอนุมัติการลงทุน 6 ดีล มูลค่าการลงทุนรวมไม่เกิน 1,583.50 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.อนุมัติให้เข้าลงทุนในบริษัท แพลท ฟินเซิร์ฟ จำกัด (PFS) โดยซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 50% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด ของ PFS จากบริษัท แคท แมชชีน แคปปิตอล จำกัด (CMC) มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 1,130 ล้านบาท โดยชำระเป็นเงินสดจำนวน 360 ล้านบาท และที่เหลือ 770 ล้านบาท จะชำระเป็นหุ้นโดย SABUY ออกหุ้นเพิ่มทุน 70 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท ราคาเสนอขายที่ 11 บาท ต่อหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)

ทั้งนี้บริษัท แพลท ฟินเซิร์ฟ จำกัด ได้สิทธิในการติดตั้งตู้ ATM จำนวน 10,000 ตู้ บริเวณหน้าร้าน 7-11 ทั่วประเทศเป็นเวลา 10 ปี และจะให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสผ่านตู้ ATM แทนการให้บริการด้วยพนักงาน

2.อนุมัติการเข้าซื้อสินทรัพย์จาก บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด (FVD) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH ได้แก่ ธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) จำนวน 4,600 ตู้อะไหล่ ระบบโปรแกรมสำเร็จรูป และการบำรุงรักษา พร้อมเข้าทำสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นเงินไม่เกิน 340 ล้านบาท ทำให้กลุ่มบริษัท SABUY มีตู้สินค้าอัตโนมัติเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ตู้ และมีศักยภาพในการแข่งขันเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่างแท้จริง

3.อนุมัติให้ร่วมทุนกับบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ในสัดส่วนการถือหุ้น 50% คิดเป็นมูลลค่าการลงทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจเครือข่าย ร้านรับส่งพัสดุ ซ่อมแซมตู้จำหน่ายสินค้า และพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต

4.อนุมัติขยายธุรกิจเครือข่ายร้านรับส่งพัสดุทั่วประเทศ เพื่อรองรับธุรกิจ E-Commerce & e-Logistics โดยการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 70% ใน บริษัท เดอะ เลตเตอร์ โพสต์ เซอร์วิส จำกัด ด้วยมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 42 ล้านบาท ซึ่งช่วยเพิ่มสาขาบริการให้กับกลุ่มได้อีกกว่า 750 สาขา

5.อนุมัติเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 60% ใน บริษัท เอ็มพ้อยท์เอ็กซ์เพรส จำกัด ด้วยมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 24 ล้านบาท ทำให้มีสาขาเพิ่มขึ้นอีกกว่า 800 สาขา

และ 6.อนุมัติให้เพิ่มการลงทุนในบริษัท เอ.ที.พี.เฟรนส์ เซอร์วิส จำกัด (ชิปป์สไมล์) อีกไม่เกิน 10% จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ด้วยเงินลงทุนไม่เกิน 37.50 ล้านบาท ทำให้ SABUY เพิ่มการถือหุ้นในชิปป์สไมล์ จาก 38% เป็นไม่เกิน 48%

“การประกาศ 6 การลงทุนดังกล่าว แสดงให้เห็นความสำเร็จในการขยายกิจการอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของ SABUY ซึ่งนอกเหนือจากจะสร้างความแข็งแกร่งให้กิจการ เพิ่มผลประกอบการอย่างต่อเนื่อง และขยาย Ecosystem ของ SABUY อย่างมีนัยสำคัญ และขยายพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม และเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เช่นธุรกิจ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ธุรกิจร้านรับส่งพัสดุ เป็นต้น” นายชูเกียรติ กล่าว

 

 

 

Back to top button