EFORL วอลุ่มแน่น-บวก4% รับกำไร Q3 โตทะลัก 11 เท่า มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 2 พันลบ.

EFORL วอลุ่มแน่น-บวก4% รับกำไร Q3 โตทะลัก 11 เท่า แตะ 658 ลบ. มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 2 พันลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(15พ.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL  ณ เวลา 15:26 น. อยู่ที่ระดับ 0.26 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 4% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 913.453 ล้านบาท

นายปรีชา นันท์นฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จํากัด (มหาชน) หรือ EFORL เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564) มีกำไรสุทธิ 658 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 603 ล้านบาท หรือ 1,113% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท  ขณะที่รายได้รวม 637 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 637 ล้านบาท หรือ 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 453 ล้านบาท

สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 778 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 334% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิเท่ากับ 319 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 1,212 ล้านบาท ซึ่งรายได้ของธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ 3 ไตรมาสของปีนี้สูงกว่ารายได้ทั้งปีของปี 2563 จากการทำรายได้ New High อย่างต่อเนื่อง

โดยสาเหตุที่ผลการดำเนินงานทะลุเป้า เนื่องจาก บริษัทฯมีรายได้จากยอดขายเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโควิด-19  จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นมาก

นอกจากนี้ยังมาจากการส่งมอบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ป้อนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนบางส่วนจากในมือ (Backlog) ทั้งหมดรวมกว่า 500 ล้านบาท เช่น เครื่องช่วยหายใจ เครื่องมอนิเตอร์สัญญาณชีพผู้ป่วย (Patient Monitor) เครื่องตรวจสมรรถภาพปอดแบบ  Portable เครื่อง Oxygen High Flow ฯลฯ จึงทำให้เชื่อว่าจะผลักดันรายได้ปี 2564 เติบโตมากกว่าเป้าหมาย 2,000 ล้านบาทแน่นอน

“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งการปรับกลยุทธ์มาให้ความสำคัญกับธุรกิจการจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างชัดเจน ตอบโจทย์ได้อย่างดี ส่งผลยอดขายปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโควิด-19 รวมทั้งการร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งในประเทศ และต่างประเทศโดยการนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์ในรูปแบบต่างๆ เข้ามาจำหน่ายมากขึ้น รวมทั้งมีการตัดบริษัทลูกที่ไม่ทำกำไร หลังจากที่นักลงทุนเคยสูญเสียความเชื่อมั่นมาจากผลกระทบจากบริษัทย่อยในอดีต” นายปรีชา กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าในการขยายธุรกิจทุกรูปแบบในด้านธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมรุกธุรกิจเครื่องมือแพทย์ครบวงจร รักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ และมีแผนมุ่งสู่เครื่องมือทางการแพทย์ในระบบ Internet of Medical Things ซึ่งเป็น Trend ใหม่ของโลกร่วมกับคู่ค้ายักษ์ใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้

Back to top button