FORTH วิ่ง 4% โบรกชี้ผลงาน Q4 ฟื้นหลังคลายล็อกดาวน์ เล็งปี 65 กำไรโต เคาะเป้า 21.60 บ.

FORTH วิ่ง 4% โบรกชี้ผลงาน Q4 ฟื้นหลังคลายล็อกดาวน์ คาดออเดอร์ธุรกิจเอ็มเอสต่อเนื่องถึงปลายปีหน้า เล็งปี 65 กำไรโตเด่น แนะ “ซื้อ” เป้า 21.60 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (26 พ.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH ณ เวลา 11:56 น. อยู่ที่ระดับ 20.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 3.55% โดยทำจุดสูงสุดที่ 20.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 19.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 64.60 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (22 พ.ย.2564) โดยคาดผลประกอบการของบริษัทช่วงไตรมาส 4/2564 กลับมาฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน จากทั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ (1) ธุรกิจอีเอ็มเอส จากยอดออเดอร์ที่ยังทรงตัวแม้ว่าจะได้รับผลกระทบเรื่องชิปขาดตลาดในช่วงเดือน ต.ค. 2564 แต่คาดว่าเดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564 จะกลับสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้การเร่ง ขยายตู้เต่าบินยังเป็นอีกปัจจัยที่มีส่วนช่วยหนุนรายให้สูงขึ้นได้ (2) ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชั่น ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่ในไตรมาส 4/2564 ที่มีการคลายล็อกดาวน์ ซึ่งทางฝ่ายวิจัยมองจะกลับมาฟื้นตัวโดยบริษัทมี Backlog ราว 1,800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่างานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) และงานระบบสื่อสารวิทยุเฉพาะกิจระบบดิจิทัลจะมีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่งานรถโบกี้ปั้นจั่นกล คาดจะขนส่งถึงประเทศไทยช่วง 20 – 21 พ.ย. 2564 นี้ ยังรอการส่งมอบและตรวจรับจากการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยหากสามารถส่งมอบทันในไตรมาส 4/2564 คาดจะหนุนกำไรขั้นต้นราว 160 – 200 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทมีแผนเซ็นสัญญางานโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 4/2564 ราว 800 – 900 ล้านบาท และ (3) ธุรกิจสมาร์ท เซอร์วิส ที่กลับมาฟื้นตัวจากการคลายล็อกดาวน์ โดยมูลค่าการเติมเงินผ่าน e-Wallet ที่ยังเติบโตสูง และการเป็นตัวแทนธนาคารพาณิชย์เพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 8 ราย รวมถึงบริการใหม่ เช่น บริการถอนเงิน นอกจากนี้ตู้คาเฟ่อัตโนมัติเต่าบินที่มีการตอบรับที่ดี จะช่วยหนุนรายได้ให้เติบโตขึ้นได้ โดยปัจจุบันให้บริการแล้วกว่า 350 จุด และทางฝ่ายวิจัยมองว่าในสิ้นปี 2564 จะมีจุดให้บริการรวม 750 จุด

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยมองผลประกอบการในปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น จากปัจจัยหนุน ดังนี้ (1) การรับรู้รายได้จากตู้เต่าบิน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มลูกค้าโรงงาน และกลุ่มลูกค้าคอนโด โดยทางฝ่ายวิจัยมองว่าตู้เต่าบินจะหนุนรายได้ในปี 2565 ราว 2,000 – 2,300 ล้านบาท จากการขยายจุดบริการให้เป็น 10,000 ตู้ในปี 2565 และ 20,000 ตู้ในปี 2566 (2) การกลับมาเติบโตของตู้บุญเติม แม้ว่ามูลค่าตลาดเติมเงินมือถือจะมีมูลค่าที่ลดลง แต่ทางฝ่ายวิจัยมองว่าจะถูก ชดเชยจากมูลค่าการเติมเงิน e-Wallet ที่ยังมีการเติบโตที่สูง รวมถึงบริการใหม่ๆ เช่น บริการถอนเงิน ที่คาดจะหนุนรายได้อย่างมีนัยสำคัญช่วงไตรมาส 2/2565

(3) ธุรกิจอีเอ็มเอสที่มียอดออเดอร์จนถึงปลายปี 2565 คาดจะหนุนรายได้ให้เติบโต โดยรายได้ของธุรกิจอีเอ็มเอส 80% จะมาจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และอีก 20% จะมาจากบริษัทในเครือ โดยเฉพาะการผลิตตู้เต่าบินที่บริษัทต้องการขยายจุดบริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การจับมือกับ SABUY ยังสร้างข้อได้เปรียบในเรื่องการลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการขยายสินค้าและบริการที่จะสามารถทำได้รวดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองที่เป็นบวกต่อบริษัทในปี 2565 แม้ว่าธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชั่น จะมีความไม่แน่นอนจากรายได้ส่วนใหญ่ที่แปรผันตามการประมูลงานของภาครัฐ แต่ธุรกิจอีเอ็มเอสที่มีออเดอร์ต่อเนื่องรวมถึงตู้เต่าบินที่เป็น New S-curve ใหม่ของกลุ่มสมาร์ท เซอร์วิส จะช่วยหนุนผลประกอบการปี 2565 ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายในปี 2565 ที่ 21.60 บาท อิงค่า PER ที่ 21.10 เท่า

Back to top button