THAI คงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.8 แสนลบ. มั่นใจปีหน้าพลิกมีกำไร

THAI มั่นใจปีหน้าพลิกมีกำไร หลังปรับทีมการตลาดเพื่อรองรับแผนงานปี 59 คาด Q4/58 ซึ่งเป็นช่วง High Season จะหนุนรายได้ทั้งปีได้ตามเป้าที่ 1.8 แสนลบ. ขณะที่ยังคงเป้าหมายสัดส่วนขายผ่านอินเตอร์เน็ตที่ 30%


นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการในปีหน้าจะพลิกเป็นกำไรจากที่ขาดทุนในปีนี้ หลังจากฝ่ายบริหารได้โยกย้ายปรับเปลี่ยนทีมการตลาดของฝ่ายการพาณิชย์ 33 ตำแหน่งเพื่อปรับกระบวนทัพให้ทันในไตรมาส 4/58 และรองรับกับแผนการตลาดใหม่ในปี 59 ที่คาดว่าการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ซึ่งบริษัทไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนทีมการตลาดมานาน 3-4 ปีแล้วทั้งที่ควรมีการปรับเปลี่ยนทุกปี

“การปรับครั้งนี้เป็นการปรับกระบวนทัพสายการตลาดเพื่อให้ทันกับการรุกตลาดในปีหน้า เราต้องเข้าถึงตลาดทุก segment  การโยกย้ายครั้งนี้ทำให้ชัดเจน จะได้รู้ว่าแต่ละกลุ่มจะขายให้ใคร กลุ่มลูกค้าไหน ขายอินเตอร์เน็ต ขายราคาเท่าไร ถ้าทำได้ ก็น่าจะทำให้ยอดขายในไตรมาส 4 นี้โตขึ้นและจะช่วยให้เป้าหมายปีนี้ได้ตามเป้า”นายจรัมพร กล่าว 

ทั้งนี้ นายจรัมพร ได้มีคำสั่งโยกย้ายพนักงานระดับผู้บริหาร สังกัดสายงานการพาณิชย์ จำนวน  33  ตำแหน่ง เมื่อวันที่ 30 ก.ย.58  โดยส่วนหนึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.58 และอีกส่วนมีผลตั้งแต่ 1 ธ.ค. 58 เป็นต้นไป

สำหรับแผนปฏิรูปของบริษัทที่เริ่มแผนตั้งแต่ต้นปี 58 จนถึงปัจจุบัน บริษัทสามารถทำได้ตามแผนเกือบทุกกลยุทธ์ ยกเว้นแผนด้านการพาณิชย์ในการหารายได้ทำได้ต่ำกว่าแผนพอสมควร  และการปรับลดค่าใช้จ่ายของบริษัทก็ยังน้อยอยู่  อย่างไรก็ตาม การปรับลดเส้นทางที่ไม่ทำกำไรได้ดำเนินการได้ตามแผน โดยล่าสุด ได้ยกเลิกเส้นทางกรุงเทพฯ-ลอสแองเจลิส ที่จะมีผลตั้งแต่ 25 ต.ค.นี้เป็นต้นไป 

ส่วนการขายเครื่องบินเก่า ตามที่วางเป้าหมายไว้จำนวน 40 ลำ คาดว่าปีนี้จะขายได้กว่า 30 ลำ โดยขณะนี้ขายได้แล้ว 18 ลำ ส่งมอบแล้ว 10 ลำ ยังเหลืออีก 22 ลำที่รอทำการขายอยู่  ซึ่งอาจจะเสนอผลการขายเครื่องบินเก่าเพิ่มอีกในการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 19 ต.ค.นี้

ขณะที่ผลงานในปีนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ 1.8 แสนล้านบาท โดยคาดว่าในไตรมาส 4 นี้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) จะสนับสนุนรายได้ทั้งปีให้ได้ตามเป้าหมาย แต่ยอมรับว่าบริษัทยังเผชิญการขาดทุน โดยในปีนี้มีค่าใช้จ่ายพิเศษที่จ่ายเพียงครั้งเดียว คือ ผลด้อยค่าสินทรัพย์หรือเครื่องบินเก่า 12,000 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายสำหรับพนักงานที่เข้าร่วมโครงการร่วมใจจาก 3,700 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในปี 59 บริษัทจะกลับมามีกำไรตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากรุกทำการตลาดมากขึ้น โดยมีตลาดท่องเที่ยวของไทยที่มีอัตราเติบโตที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยสนับสนุน โดยบริษัทคาดว่ารายได้ในปีหน้าจะทำได้ 1.8-1.9 แสนล้านบาท

ส่วนกรณีที่สำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration – FAA) ที่จะเข้ามาติดตามการแก้ไขปัญหาการบินของไทยอีกครั้งในช่วงวันที่ 26-28 ต.ค.นี้ รวมทั้งเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยการบินของการบินไทยด้วยเนื่องจากมีเส้นทางบินไปสหรัฐอเมริกา แม้ว่าขณะนี้จะยกเลิกเส้นทางกรุงเทพฯ-ลอสแองเจลิสแล้ว แต่การบินไทยยังมีพันธมิตรเที่ยวบินร่วม(code share) กับสายการบินอื่น ดังนั้น การบินไทยต้องเตรียมตัวพร้อมสำหรับการตรวจสอบของ FAA เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบให้ได้

ด้านนายธีรพล โชติชนาภิบาล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ THAI เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเปลี่ยนการขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการขายตั๋วโดยสารผ่านอินเตอร์เน็ต โดยได้มีปรับหน้าโฮมเพจของบริษัทให้ทันสมัยมากขึ้นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้รวดเร็วขึ้น เพราะการแข่งขันสายการบินรุนแรงขึ้น สภาพแวดล้อมแตกต่างจากช่วง 3-5 ปีที่แล้ว บริษัทจึงต้องปรับตัวให้ทันกับสภาพการแข่งขัน

ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายการขายตั๋วโดยสารผ่านอินเตอร์เน็ตที่ 30% แต่ปีนี้ทำได้ต่ำกว่า 20% ของยอดขายทั้งหมด ทั้งนี้การขายตั๋วโดยสารแต่ละเมืองแต่ละประเทศแตกต่างกัน โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งบางประเทศยังมีส่วนน้อยอยู่ ส่วนในจีน ยอดขายตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ตได้ใกล้เคียง 30% เพราะส่วนหนึ่ง เอเย่นต์ที่จีนซื้อตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ตให้ลูกค้า  โดยในปีหน้าก็ยังคงตั้งเป้าหมายสัดส่วนขายผ่านอินเตอร์เน็ตที่ 30% เพราะการขายตั๋วผ่ายช่องทางนี้จะช่วยสร้างมาร์จิ้นได้ดีกว่าการขายตั๋วผ่านเอเย่นต์

Back to top button