“ฟินันเซีย” คัด 5 หุ้นท็อปพิคเดือนก.พ. ชูกำไร Q4/64 ฟื้น-ปี 65 โตต่อ

“ฟินันเซีย” คัด 5 หุ้น Top Pick เดือนก.พ.เน้นกำไรไตรมาส 4/64 ฟื้นตัว-โตต่อเนื่องปี 65 ชู GFPT,HMPRO,PJW,SC,TKS เด่น


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(2 ก.พ.2565) ว่า คาดบรรยากาศการลงทุนในเดือน ก.พ. 2565 จะผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากพักตัวในช่วงครึ่งหลังของเดือนก่อนไป และสะท้อนปัจจัยกดดันจากนโยบายการเงิน FED ที่จะตึงตัวเร็วไปมากพอสมควร

ทั้งนี้แม้ในเดือน ม.ค. 2565 หุ้นไทยจะค่อนข้างผันผวนและไม่ปิดบวก ตามสถิติในอดีต แต่สำหรับหรับเดือน ก.พ. 10 ปีย้อนหลัง SET Index ปรับขึ้นเฉลี่ย 0.92% ด้วยความน่าจะเป็นถึง 80% (ปรับ ขึ้น 8 ใน 10 ปี) ประกอบกับดัชนีพักตัวในเดือน ม.ค. จากความกังวลนโยบายการเงิน FED และทิศทางผลประกอบการกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ฟื้นตัว มองว่ามีโอกาสที่เดือน ก.พ.จะเห็นการแกว่งตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ตามความผันผวนค่อนข้างสูง ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,620-1,700 จุด

โดยบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่โดยเฉพาะฝั่ง Real Sector จะทยอยประกาศกำไรไตรมาส 4/2564 ในเดือน ก.พ. นี้ โดยล่าสุดตัวเลข จาก Bloomberg Consensus คาดกำไรไตรมาส 4/2564 ทรงตัวเทียบไตรมาสก่อนหน้า แต่โตแรง 216% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน การทรงตัวเทียบไตรมาสก่อนหน้าเกิดจากการชะลอตัว จองบางกลุ่ม เช่น สื่อสารฯ ไฟแนนซ์ การแพทย์ เป็นต้น จากทั้ง ปัจจัยฤดูกาลที่ปกติไตรมาส 4/2564 มักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าไตรมาสอื่น รวมถึงการระบาดของ COVID-19 ใน ไตรมาส 3/2564 ที่เริ่มคลี่คลาย

อย่างไรก็ตามหากพิจารณากลุ่มหลักอื่นๆอย่าง พลังงาน ธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ ล้วนแล้วแต่ได้รับอานิสงส์บวก โดย กลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น ส่วน Domestic Play ฟื้นตัวหลังคลาย Lockdown และกลับมา Reopening สะท้อนให้เห็นได้จากกำไรไตรมาส 4/2564ของกลุ่มธนาคาร ที่ประกาศออกมาแล้วและดีกว่าคาด โต 2% เทียบไตรมาสก่อนหน้า,โต 27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่แข็งแกร่ง รวมถึงการตั้งสำรองที่จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่แข็งแกร่ง รวมถึงการตั้งสำรองที่ลดลง ประเมินว่าการประกาศกำไรของบริษัทจดทะเบียน รอบนี้จะไม่เป็นปัจจัยกดดัน SET Index และคาดว่าตลาดจะ มองข้ามไปยังปี 2565 ที่จะเห็นการฟื้นตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดย ผลกระทบจากโอมิครอบปัจจุบันต่อเศรษฐกิจค่อนข้างจำกัด

โดยมองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับขึ้นแข็งแกร่งในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของเดือน ม.ค. 2565และพักฐานแรงในช่วงครึ่ง เดือนหลังได้สะท้อนความกังวลต่อนโยบายการเงินของ FED ที่จะตึงตัวเร็วไปพอสมควรโดยเฉพาะหลังการประชุม FED ล่าสุด โดยตลาดมองว่า FED จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ย 0.25-0.50% ในการประชุมเดือน มี.ค. 2565 นี้ และจะเริ่มเห็นการลดขนาดงบดุลในครึ่งหลังปี 2565

ส่วนสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ. 2565 จะมีการประชุม BoE (ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25%) ส่วน ECB ตลาดคาดว่ายังคงอัตราดอกเบี้ย ทำให้บรรยากาศการลงทุน ในเดือนนี้ดูผ่อนคลายมากขึ้นเนื่องจากไม่มี Event สำคัญ มากนัก โฟกัสหลักจึงอยู่ที่การประกาศกำไรของบริษัทจดทะเบียนดังที่กล่าวไปข้างต้น อย่างไรก็ตามคาดว่าจะยังมี ความผันผวนให้เห็นและคาดตลาดจะเริ่มกลับมาให้น้ำหนักกับ เรื่องนโยบายการเงินอีกครั้งในเดือน มี.ค.

จากปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดที่จึงมองว่าจังหวะปรับฐานลงของ SET Index ลงหาระดับ 1,620+- จุด ซึ่งมีโอกาส เป็นจุดต่ำสุดของรอบ เป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่ม ขณะที่ผลจากนโยบายการเงินของ FED ที่จะตึงตัวเร็วขึ้น ทำให้มองว่าตลาดจะยังเกิด Sector Rotation จากหุ้น Growth และ Tech เข้าหาหุ้น Value Play ที่มี PER และ PBV ต่ำ กลุ่มที่ชอบ ได้แก่ ธนาคาร,อสังหาฯ,ยานยนต์,เนื้อสัตว์,ค้าปลีก และโรงกลั่น ซึ่งคาดมีแนวโน้มกำไรฟื้นตัวทั้ง ในไตรมาส 4/2564 และ ปี 2565 โดยเลือก Top Pick 5 ตัว สำหรับเดือน ก.พ. ได้แก่ GFPT,HMPRO,PJW,SC และ TKS

Back to top button